คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องและสั่งคืนค่าขึ้นศาลแก่โจทก์ โดยแจ้งคำสั่งไม่รับคำฟ้องให้แก่โจทก์โดยวิธีปิดหมายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2544 โจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลภาษีอากรกลางในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2544 โดยบรรยายความว่า ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องโจทก์และสั่งคืนค่าขึ้นศาลแก่โจทก์ โจทก์จึงขอรับเงินค่าขึ้นศาลคืน เป็นที่แจ้งชัดว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลภาษีอากรกลางที่ไม่รับคำฟ้องตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2544 แล้ว ประกอบกับโจทก์ได้รับเงินค่าขึ้นศาลคืนจากศาลในวันเดียวกันนั้น แสดงให้เห็นว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ดังนั้น หากโจทก์ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว โจทก์ต้องยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2544 คือภายในวันที่ 19 ธันวาคม 2544 โดยต้องนำค่าขึ้นศาลที่รับคืนไปแล้วกลับมาชำระให้ครบถ้วนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 ประกอบ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลภาษีอากร ฯ มาตรา 29
ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลภาษีอากร ฯ มาตรา 19 ศาลภาษีอากรกลางมีอำนาจขยายระยะเวลาได้ตามความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม เมื่อกรณีไม่มีความจำเป็นจะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์แก่โจทก์ ที่ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ จึงไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ในอันที่จะยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาตามคำสั่งนั้น แม้โจทก์จะยื่นอุทธรณ์มาภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ โดยยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดมีคำสั่งให้ส่งคำฟ้องโจทก์ไปยังศาลภาษีอากรกลางเพื่อมีคำสั่ง ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งว่าโจทก์ฟ้องกรมสรรพากรรายเดียว โจทก์ต้องยื่นคำฟ้องต่อศาลภาษีอากรกลางเท่านั้น โจทก์ยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ต้องด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๓๓ จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง คืนค่าขึ้นศาลให้แก่โจทก์ทั้งหมด จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ แจ้งศาลจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อให้โจทก์ทราบ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๒๔ และมาตรา ๑๙ กำหนดให้โจทก์ต้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องโจทก์ของศาลภาษีอากรกลางภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำสั่งนั้นหรือวันที่โจทก์ได้ทราบคำสั่งนั้น แต่ศาลภาษีอากรกลางมีอำนาจขยายระยะเวลาดังกล่าวได้ตามความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่าโจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลภาษีอากรกลางในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ โดยบรรยายความว่า ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องโจทก์และสั่งคืนค่าขึ้นศาลแก่โจทก์ โจทก์จึงขอรับเงินค่าขึ้นศาลคืน เป็นที่แจ้งชัดว่าโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลภาษีอากรกลางที่ไม่รับคำฟ้องโจทก์ตั้งแต่วันดังกล่าวแล้ว ประกอบกับโจทก์ได้รับเงินค่าขึ้นศาลคืนจากศาลภาษีอากรกลางในวันเดียวกันนั้น อันแสดงให้เห็นว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ดังนั้น หากโจทก์ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว โจทก์ต้องยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันดังกล่าว คือภายในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๔๔ โดยต้องนำค่าขึ้นศาลที่รับคืนไปแล้วกลับมาชำระให้ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๘ ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๒๙ ด้วย สำหรับอำนาจของศาลภาษีอากรกลางที่จะมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์แก่โจทก์ ตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘ นั้น ต้องปรากฏว่ามีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตามที่บัญญัติไว้ในบทมาตราดังกล่าว โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ต่อศาลภาษีอากรกลางเมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๔๕ ล่วงพ้นกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์นาน ๑๔ วัน โดยอ้างเหตุว่า โจทก์เพิ่งทราบคำสั่งศาลภาษีอากรกลางที่ไม่รับคำฟ้องโจทก์ โดยศาลจังหวัดร้อยเอ็ดส่งหมายแจ้งคำสั่งไม่รับคำฟ้องโจทก์ของศาลภาษีอากรกลางให้แก่โจทก์ด้วยวิธีปิดหมาย เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ กรณีถือว่าครบกำหนดโจทก์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งในวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๔๕ ขัดกับข้อเท็จจริงตามที่โจทก์บรรยายไว้ในคำแถลงของโจทก์ฉบับลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ดังได้วินิจฉัยแล้วข้างต้น จึงรับฟังไม่ได้… กรณีไม่มีความจำเป็นจะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์แก่โจทก์ ตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘ ที่ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา และไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ในอันที่จะยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาตามคำสั่งนั้น โจทก์ยื่นอุทธรณ์วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ เกินกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ อันเป็นวันที่โจทก์ทราบคำสั่งไม่รับคำฟ้องโจทก์ของศาลภาษีอากรกลาง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดให้แก่โจทก์ ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

Share