แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เหตุที่จำเลยกับพวกร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งโดยสารมาในเรือ เพราะผู้เสียหายได้ถามนายท้ายเรือว่า พวกจำเลยนี้จะไปไหนกัน จำเลยกับพวกคงโกรธเพราะฤทธิ์สุราผสมด้วย จึงสมคบร่วมกันคิดทำร้ายขณะผู้เสียหายไม่ทันรู้ตัว โดยพวกของจำเลยลุกไปนั่งคุมเชิงผู้เสียหายอยู่ข้างหลังก่อน พอเรือแวะจะส่งนักเรียน จำเลยก็แหวกนักเรียนตรงเข้าไปทำร้ายผู้เสียหาย พวกของจำเลยก็เข้าช่วยใช้มีดปลายแหลมยาวคืบกว่าแทงผู้เสียหายซ้ำ 2 ที ถูกที่สำคัญลึกถึงตับและปอด ซึ่งอาจทำให้ตายได้ จนผู้เสียหายล้มลง ก็จะแทงซ้ำอีกแต่มีคนกันไว้ จำเลยกับพวกจึงพากันหลบหนีไปเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า มีเจตนาฆ่าให้ตายเมื่อแพทย์ทำการผ่าตัดรักษาไว้ได้ทันท่วงที ่จำเลยก็ย่อมต้องมีความผิดฐานพยายาม ฆ่าคน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันพวกอีก ๑ คน ใช้ขวดและมีดตีและแทงนายตรีวัฒน์ โดยเจตนาฆ่า แต่มีผู้ขัดขวางและนายแพทย์ทำการผ่าตัดรักษาทันท่วงที จึงไม่ตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๐, ๒๙๗, ๘๓, ๘๐
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกับนายมอสมคบกันแทงผู้เสียหายถึงบาดเจ็บบาดแผลฉกรรจ์ อาจถึงตายได้ มีความผิดฐานพยายามฆ่าคน ตามมาตรา ๒๘๐, ๒๙๗, ๘๐ แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๘๘, ๘๐ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก ๑๐ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยสมคบกับนายมอทำร้ายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗, ๘๓ ให้จำคุกจำเลย ๓ ปี
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคน
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายมอกับจำเลยได้สมคบร่วมกันร้ายร่างกายผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส มีแผลถูกแทง ๒ แผล ถูกตี ๑ แผล คือที่ชายโครงขวายาว ๒ เซ็นติเมตร กว้าง ๑/๒ เซ็นติเมตร ลึกทะลุเข้าช่วงท้องถูกคับ ๑ แผลที่หน้าอกซ้ายยาว ๒ เซ็นติเมตร กว้าง ๑/๒ เซ็นติเมตร ลึกเข้าช่วงปวด ๑ แผล ที่ศีรษะยาว ๓ เซ็นติเมตร ลึกจดกระโหลก กว้างเท่าใดไม่ปรากฏ บันทึกบาดแผล ผู้เสียหายก็ว่ารักษารวม๑ เดือน จึงหาย ข้อที่ว่า จำเลยกับพวกมีเจตนา ฆ่าหรือไม่นั้น พิเคราะห์บันทึกบาดแผลและมีดที่แทง เป็นมีดปลายแหลมยาวคืบกว่า ในใบชันสูตรบาดแผลว่า แผลยาว ๒ เซ็นติเมตรกว้าง ๑/๒ เซ็นติเมตร ถูกตับ ๑ แผล ลึกเข้าช่วงปอด ๑ แผล ถูกที่สำคัญ เหตุที่จำเลยกับนายกับนายมอร่วมกันทำร้าย ก็คงเป็นเพราะผู้เสียหาย ได้ถามนายท้ายเรือว่า พวกจำเลยนี้ จะไปไหนกัน จำเลยกับนายมอคงจะโกรธ เพราะฤทธิ์สุราผสมด้วย จึงสมคบร่วมคิดกัน ทำร้ายโดยนายมอสุกไปนั่งคุมเชิงผู้เสียหายอยู่ข้างหลัง พอเรือแวะจะส่งนักเรียน จำเลยก็แหวกนักเรียนตรงเข้าไปทำร้ายผู้เสียหาย นายมอก็เข้าช่วยใช้มีพลแทงผู้เสียหาย ๒ ที่สำคัญ แล้วจะแทงอีก แต่มีคนกันไว้ จำเลยกับนายมอจึงพากันโดดขึ้นฝั่งหลบหนีไปดังนี้
คดีมีปัญหาว่า จำเลยกับนายมอสมคบร่วมคิดกันทำร้ายผู้เสียหาย โดยมีเจตนาฆ่า หรือไม่
ศาลฎีกาได้พิเคราะห์พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นและอาวุธมีดกับบาดแผลที่ถูกแทงถูกที่สำคัญลึกถึงตับและปอดซึ่งอาจทำให้ถึงตายได้ โดยได้วางแผนการณ์ลอบทำร้ายโดยคอยช่วยกันทำร้ายขณะผู้เสียหายไม่ทันรู้ตัว และแทงซ้ำถึง ๒ ที จนผู้เสียหายล้มลงก็แทงซ้ำอีก ดังนี้ แสดงให้เห็นว่าเจตนาฆ่าให้ตาย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
ศาลฎีกาพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ ให้จำคุกไว้ ๑๐ ปีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น