คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

บ.ลูกจ้างจำเลยประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย โจทก์เป็นภริยาของ บ. ยื่นเรื่องราวขอรับเงินทดแทนจากสำนักงานแรงงานจังหวัดสำนักงานแรงงานจังหวัดปฏิเสธการจ่ายเงินทดแทน โจทก์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน คณะกรรมการฯ ยกอุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ทราบผลการวินิจฉัยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2529ดังนี้ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบการจ่ายเงินทดแทนฯ ข้อ 25 กำหนดว่าถ้าผู้อุทธรณ์ไม่พอใจคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนให้ฟ้องต่อศาลภายใน 30 วันนับแต่วันทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยและต่อมาได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลแรงงานกลางหมายเรียกกรมแรงงานเข้ามาเป็นจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2529ซึ่งมีผลเท่ากับโจทก์ฟ้องกรมแรงงานในวันที่ 18 กันยายน นั้นเองถือได้ว่าโจทก์มิได้ใช้สิทธิฟ้องคดีภายในกำหนดระยะเวลาตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ดังกล่าว โจทก์จึงไม่อาจนำคดีมาฟ้องจำเลยร่วมต่อศาลได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายบุญร่วม ธรรมชัย สามีโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขอให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนการเสียชีวิตของสามีโจทก์ในอัตราร้อยละหกสิบของค่าจ้างรายเดือนมีกำหนด 5 ปีเป็นเงิน 380,304 บาทแก่โจทก์ จำเลยให้การว่าจำเลยไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์เนื่องจากจำเลยได้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนตามประกาศกระทรวงมหาดไทยแล้ว โจทก์ขอให้เรียกกรมแรงงานเข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลแรงงานกลางอนุญาต จำเลยร่วมให้การว่า โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อพ้นกำหนด 30 วันนับแต่วันทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน ขอให้ยกฟ้อง โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยศาลแรงงานกลางอนุญาต ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยร่วมจ่ายค่าทดแทนแก่โจทก์ในอัตราร้อยละหกสิบของอัตราค่าจ้างเดือนละ 10,564 บาท มีกำหนด 5 ปีเป็นเงิน 380,304 บาทจำเลยร่วมอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายบุญร่วม ธรรมชัยนายบุญร่วมเป็นลูกจ้างจำเลย จำเลยผู้เป็นนายจ้างมีหน้าที่จ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2528นายบุญร่วมประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตาย โจทก์ได้ยื่นเรื่องราวขอรับเงินทดแทนจากสำนักงานแรงงานจังหวัดเชียงรายแต่สำนักงานแรงงานจังหวัดเชียงรายปฏิเสธการจ่าย โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนวินิจฉัยว่านายบุญร่วม ธรรมชัย มิได้ประสบอันตรายจนถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง จำเลยร่วมได้แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ดังกล่าวให้โจทก์ทราบและโจทก์ได้ทราบผลการวินิจฉัยยกอุทธรณ์ของจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2529โจทก์จึงฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2529 และยื่นคำร้องขอให้ศาลแรงงานกลางหมายเรียกกรมแรงงานเข้ามาเป็นจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2529
จำเลยร่วมอุทธรณ์ข้อ 2 ก. ว่า ตามทางนำสืบของโจทก์ได้ความว่าโจทก์ได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2529 แต่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกกรมแรงงานเข้ามาเป็นจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2529เป็นเวลาเกินกว่า 30 วัน คดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้วนั้น พิเคราะห์แล้ว ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบการจ่ายเงินทดแทนของสำนักงานกองทุนเงินทดแทนและการอุทธรณ์ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2516 สำหรับหมวดการจ่ายเงินทดแทนของสำนักงานกองทุนเงินทดแทน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวในข้อ 15 ให้ลูกจ้างหรือผู้มีสิทธิยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนจากสำนักงานกองทุนเงินทดแทน ข้อ 16 เมื่อได้รับแจ้งตามข้อ 15ให้สำนักงานกองทุนเงินทดแทนดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อเห็นว่าลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินทดแทน ให้สำนักงานกองทุนเงินทดแทนแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือผู้เกี่ยวข้องทราบ ในกรณีที่เห็นว่าฝ่ายลูกจ้างนั้นไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทน ให้สำนักงานกองทุนเงินทดแทนแจ้งไปเช่นเดียวกัน ส่วนในหมวดการอุทธรณ์ กำหนดไว้ตามข้อ 24 ว่า ลูกจ้างหรือผู้มีสิทธิซึ่งไม่พอใจคำวินิจฉัยของสำนักงานกองทุนเงินทดแทนตามข้อ 16ให้อุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัย และข้อ 25 กำหนดว่า “ให้คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนพิจารณาอุทธรณ์ตามข้อ 23 หรือ 24โดยไม่ชักช้า และเมื่อได้วินิจฉัยอุทธรณ์แล้วให้แจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบเป็นหนังสือ… ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่พอใจคำวินิจฉัยอุทธรณ์ให้ยื่นฟ้องต่อศาลได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์นั้น” เห็นว่า คดีนี้โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลแรงงานกลางหมายเรียกกรมแรงงานเข้ามาเป็นจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 18 กันยายน2529 ซึ่งมีผลเท่ากับโจทก์ได้ฟ้องกรมแรงงานเป็นจำเลยเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2529 นั้นเอง เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามที่ศาลแรงงานกลางรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์ได้ทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2529และโจทก์มิได้นำคดีไปฟ้องกรมแรงงานจำเลยร่วมภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์มิได้ใช้สิทธิฟ้องคดีภายในกำหนดระยะเวลาตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ดังกล่าวข้างต้น โจทก์จึงไม่อาจนำคดีมาฟ้องจำเลยร่วมต่อศาลได้ อุทธรณ์ของจำเลยร่วมข้อนี้ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share