คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่า ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายซึ่งเป็นเสมียนฝึกหัดใหม่นำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาล และกำหนดวันนัดพิจารณาแทน โดยทนายจำเลยจดวันว่างมอบให้เสมียนทนายมากำหนดวันนัดใหม่ แต่ทนายโจทก์เป็นผู้ทำเครื่องหมายวงกลมบนกระดาษที่ทนายจำเลยจดวันว่างให้แก่เสมียนทนายดังกล่าว โดยวงไว้ วันที่ 2 และ15 กรกฎาคม 2525 และเขียนข้อความไว้ด้วยว่านัดสืบ 2 วัน และเสมียนทนายจำเลยได้นำกระดาษดังกล่าวมามอบให้ทนายจำเลย ทำให้ทนายจำเลยเข้าใจวันนัดผิดโดยคิดว่านัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 2 และ 15 กรกฎาคม 2525 ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังข้อกล่าวอ้างของจำเลย ย่อมถือได้ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาอันเป็นเหตุที่จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ได้ ศาลชั้นต้นควรให้โอกาสโจทก์ยื่นคำคัดค้านและไต่สวนพยานหลักฐานให้สิ้นกระแสความก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาส่งมอบมัลติมิเตอร์ซึ่งโจทก์ตกลงซื้อจากจำเลย โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาหลายครั้ง แต่จำเลยไม่ปฏิบัติ โจทก์จึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญาต่อจำเลย ซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องชำระค่าปรับให้แก่โจทก์ตามสัญญาเป็นจำนวน ๕๘๕,๓๑๒ บาท โจทก์ได้รับชำระจากธนาคารแหลมทอง จำกัด ตามสัญญาค้ำประกันแล้ว ๒๑,๘๔๐ บาท ส่วนที่เหลือจำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์ จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาไปฝ่ายเดียวเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๒๕ และพิพากษาเมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๒๕ ให้จำเลยชำระเงินค่าปรับ ๕๓๔,๕๔๓.๒๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่าทนายจำเลยเข้าใจวันนัดสืบพยานโจทก์ผิด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่า เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๒๕ อันเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาล ฟังคำสั่งและรับทราบกำหนดวันนัดพิจารณาแทน ตามคำร้องขอเลื่อนคดีทนายจำเลยอ้างว่าติดว่าความในคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อน และทนายโจทก์ไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นจึงอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๑ และ ๑๕กรกฎาคม ๒๕๒๕ เวลา ๙ นาฬิกา โดยเสมียนทนายจำเลยได้เซ็นทราบรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้เลื่อนคดีดังกล่าวแล้ว คดีมีปัญหาว่าข้อที่จำเลยยกขึ้นอ้างตามคำร้องเป็นเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่ได้หรือไม่ เห็นว่าเหตุที่จำเลยยกขึ้นอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณาก็คือ ทนายจำเลยได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายซึ่งเป็นเสมียนฝึกหัดใหม่นำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลและกำหนดวันนัดพิจารณาแทนโดยทนายจำเลยจดวันว่างมอบให้เสมียนทนายมากำหนดวันนัดใหม่ แต่ทนายโจทก์เป็นผู้นำเครื่องหมายวงกลมบนกระดาษที่ทนายจำเลยจดวันว่างให้แก่เสมียนทนายดังกล่าวโดยวงไว้ที่วันที่ ๒ และ ๑๕กรกฎาคม ๒๕๒๕ และเขียนข้อความไว้ด้วยว่า นัดสืบ ๒ วัน และเสมียนทนายจำเลยได้นำกระดาษดังกล่าวมามอบให้ทนายจำเลย ทำให้ทนายจำเลยเข้าใจวันนัดผิดโดยคิดว่านัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๒ และ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๒๕ ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังข้อกล่าวอ้างของจำเลย ย่อมถือได้ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา อันเป็นเหตุที่จำเลยจะขอให้พิจารณาใหม่ได้ ตามคำแก้ฎีกาของโจทก์ทนายโจทก์ก็อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องดังข้อกล่าวอ้างของจำเลย ข้อเท็จจริงจึงยังไม่เป็นที่แน่ชัด ศาลชั้นต้นควรให้โอกาสโจทก์ยื่นคำคัดค้านและดำเนินการไต่สวนพยานหลักฐานในเรื่องนี้ให้สิ้นกระแสความก่อน
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องของจำเลยแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share