แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คำว่า มาเธอร์แคร์ ที่โจทก์ประดิษฐ์ขึ้น และใช้สำหรับการค้าเครื่องแต่งกายมารดาและเด็กมิใช่เป็นคำสามัญ การที่จำเลยนำคำดังกล่าวมาใช้ในการประกอบการค้าเช่นเดียวกับโจทก์ ทั้งใช้อักษรที่มีรูปประดิษฐ์เด็กอยู่ภายในเหมือนของโจทก์ จำเลยจึงมีเจตนาลอกเลียนชื่อและเครื่องหมายดังกล่าวของโจทก์โดยไม่สุจริต การกระทำของจำเลยก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่คนทั่วไปทำให้โจทก์เสียหาย เป็นการละเมิดต่อโจทก์
จำเลยกระทำละเมิดตลอดมาจนถึงวันฟ้อง คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเลิกใช้คำว่า มาเธอร์แคร์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษกับตัวอักษรเอ็มที่มีรูปรอยประดิษฐ์ ฯ ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยจดทะเบียนชื่อมาเธอร์แคร์ โดยสุจริตจึงมีสิทธิใช้ชื่อนี้ได้ และการที่จำเลยใช้ชื่อนี้ไม่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์นั้นเห็นว่า คำว่ามาเธอร์แคร์มิใช่เป็นคำสามัญ แต่เป็นคำที่โจทก์ประดิษฐ์ขึ้นและใช้สำหรับการค้าเครื่องแต่งกายมารดาและเด็ก การที่จำเลยนำคำดังกล่าวมาใช้ในการประกอบการค้าเช่นเดียวกับที่โจทก์ ทั้งได้ใช้อักษรเอ็มที่มีรูปประดิษฐ์เด็กอยู่ภายในเหมือนของโจทก์ เห็นได้ชัดว่า จำเลยมีเจตนาลอกเลียนชื่อและเครื่องหมายดังกล่าวของโจทก์ การกระทำของจำเลยจึงไม่สุจริต และเชื่อว่าการกระทำของจำเลยก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่คนทั่วไปได้ว่ากิจการของจำเลยเป็นของโจทก์ การกระทำของจำเลยจึงทำให้โจทก์เสียหาย เป็นการละเมิดต่อโจทก์
ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปีนับแต่วันที่โจทก์ทราบถึงการกระทำละเมิดของจำเลย คือวันที่ 14 กรกฎาคม 2519 คดีขาดอายุความนั้น เห็นว่า แม้โจทก์จะทราบตั้งแต่วันดังกล่าวว่าจำเลยกระทำละเมิดแต่โจทก์ก็ฟ้องว่า จำเลยกระทำละเมิดตลอดมาจนถึงวันฟ้อง มิได้หยุดการกระทำละเมิดตั้งแต่วันที่ทราบนั้น และข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่า จำเลยกระทำละเมิดตลอดมา ฟ้องโจทก์จึงไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันทำละเมิด คดีไม่ขาดอายุความ”
พิพากษายืน