แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายใช้ปืนจะยิงจำเลยก่อน จำเลยจึงฟันเอา 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีโดยปืนหลุดจากมือแล้วจำเลยเอาปืนไล่ยิ่งผู้ตาย ตามดังนี้ การกระทำของจำเลยตอนแรกเป็นการป้องกันชัวิตพอสมควรแก่เหตุ ได้รับยกเว้นโทษ แต่การที่จำเลยไล่ตามไปยิงผู้ตายนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกันมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทษะโดยถูกผู้ตายกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงและไม่เป็นธรรม ยังหาขาดตอนไม่ จำเลยจึงควรได้รับลดหย่อนโทษฐานบันดาลโทษะตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 55.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙.
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของจำเลยแบ่งเป็น ๒ ตอน ตอนแรกที่ผู้ตายใช้ปืนจะยิงจำเลยๆจึงฟันเอา ๑ ที ฟังว่า เป็นการกระทำด้วยความจำเป็น เพื่อป้องกันชีวิต พอสมควรแก่เหตุ แต่ตอนหลังที่ผู้ตายวิ่งหนีไปโดยปืนหลุดมือแล้ว จำเลยยังเอาปืนไล่ยิงผู้ตายอีกนั้น ผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา จึงพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ จำคุก ๑๕ ปี ลดกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๕๔ คงจำคุก ๗ ปีครึ่ง ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ ประกอบด้วยมาตรา ๕๕ กำหนดโทษจำคุก ๗ ปี ๖ เดือน ลดตามมาตรา ๕๙ อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ ปี ๘ เดือน ฯลฯ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยไล่ตามยิงผู้ตายนีน้ ถือว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกันมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทษะ โดยถูกผู้ตายกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงและไม่เป็นธรรม ยังหาขาดตอนไม่ จำเลยควรได้รับลดหย่อนโทษตามมาตรา ๕๕ ก.ม.ลักษณะอาญา ศาลอุทธรณ์ พิพากษาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน