คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป+ถึง 10 ปี เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฝ่ายโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพะยานดังนี้ ศาลมีอำนาจตัดสินยกฟ้องได้ที่เดียวโดยมิต้องเรียกพะยานโจทก์นำสืบ ในคดีที่ไม่มีการสืบพะยานสืบเลยไม่มีบทกฎหมายอันใดให้อำนาจศาลเรียกร้องพะยานมาสืบได้เอง

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องจำเลยตามกฎหมายหลายมาตรา หาว่าจำเลยเอาความเท็จมาแจ้งแก่เจ้าพนักงาน ๆ หลงเชื่อได้จัดการแก้ทะเบียนสัตว์พาหนะไปตามคำเท็จของจำเลยจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์ไม่มีสืบพะยาน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายมีอัตราโทษแต่ ๑ ปีขึ้นไปถึง ๑๐ ปี ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๗๖ ศาลต้องฟังพะยานโจทก์ก่อนจึงพิพากษายกฟ้อง ผู้พิพากษาฝ่ายข้างน้อยเห็นแย้งควรให้ศาลชั้นต้นฟังพะยานโจทก์แล้วพิพากษาคดีใหม่
ศาลฎีกาตัดสินว่า ถ้อยคำในตัวบท ม.๑๗๖ ข้างต้นมีความประสงค์ให้ใช้ในคดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง ๑๐ ปี และที่กว่านั้นขึ้นไป คดีนี้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าต้องฟังพะยานโจทก์จนเป็นที่พอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงจึงจะลงโทษได้นั้นชอบแล้ว อนึ่งที่บังคับให้ศาลต้องฟังคำพะยานโจทก์นั้นเป็นที่เข้าใจว่าพะยานที่โจทก์นำสืบแล้วหรือจะสืบต่อไป หาได้บังคับให้ศาลต้องหาพะยานมาสืบเองไม่ เมื่อคดีนี้ไม่มีพะยานสืบเสียเลยจึงต่างกับคดีที่ได้มีพะยานสืบมาบ้างแล้ว แต่มีเหตุสงสัยเกิดขึ้น ศาลจึ่งจะเรียกพะยานมาสืบเพิ่มเติมเป็นพะยานศาลได้ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฎีกาโจทก์

Share