แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ร้องขอให้ศาลสั่งให้ผู้ร้องทำ+ตามที่จำเป็น เพื่อจัดการทรัพย์ของผู้ไม่อยู่นั้นถ้าไม่ระบุในคำร้องอ้างสิ่งที่ขอทำเป็นกิจจะลักษณะแล้วศาลต้องยกคำร้อง
ย่อยาว
ผู้ร้องกล่าวว่าเป็นมารดานายเปรม บุรี และนายระจิด บุรี คนทั้งสองนี้ได้รับมฤดกยางคำแปงซึ่งตามพินัยกรรม์นายพุกกับพวก เป็นผู้จัดการในระหว่างที่คนทั้งสองยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ คนทั้งสองไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษโดยมิได้มอบอำนาจทั่วไปไว้ เวลาล่วงมาปีเศษแล้วไม่มีใครรู้ว่าอยู่หรือตาย จึงขอให้ศาลสั่งให้ผู้ร้องทำพลางตามที่จำเป็นเพื่อจัดการทรัพย์ของคนทั้งสองนี้ตามประมวลแพ่ง มาตรา ๕๕ นายพุก บุรี คัดค้าน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คนทั้งสองนั้นบรรลุนิติภาวะแล้วการเป็นผู้จัดการทรัพย์ตามพินัยกรรม์ก็สิ้นสุดลง ผู้ร้องสมควรเป็นผู้จัดการทรัพย์เพราะเป็นมารดา จึงตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการทรัพย์ของคนทั้งสอง
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าผู้ร้องไม่ได้ระบุอ้างสิ่งที่ขอทำพลาง และไม่มีประเด็นถึงเรื่องตั้งผู้จัดการทรัพย์ของคนทั้งสอง จึงพิพากษากลับ
ผู้ร้องฎีกา ผู้คัดค้านตายระหว่างคดีชั้นศาลฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการทรัพย์ของคนทั้งสองก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ และเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ ว่าผู้ร้องจำต้องร้องขอจัดการหรือจัดทำเป็นสิ่งเป็นอย่างโดยฉะเพาะตามความจำเป็น แต่ผู้ร้องไม่ได้ขอเช่นนั้น ผู้ร้องเพียงแต่ขอทำพลางตามที่จำเป็นตามมาตรา ๕๓ วรรคต้น เมื่อไม่ได้ขอให้ศาลสั่งจัดการอย่างใดเป็นกิจจะลักษณะศาลก็ต้องยกคำร้อง จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์