คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ว. เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติโดยธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรพ.ศ.2515 ต่อมามีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบทเฉพาะกาล มาตรา 234 ที่มิให้นำ มาตรา 102,103 ของรัฐธรรมนูญดังกล่าวมาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติผลจึงมีว่า ว. ย่อมจะดำรงตำแหน่งการเมืองและตำแหน่งหรือหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐได้ในคราวเดียวกัน ว. จึงไม่เป็นผู้ที่ไม่อาจทำงานเต็มเวลาให้แก่การเคหะแห่งชาติตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 316 ข้อ 22(3) และ (5)ว. จึงอาจดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติต่อไปและมีสิทธิที่จะมอบอำนาจให้ น. ฟ้องคดีแทนได้
แม้โจทก์จะได้โอนขายกรรมสิทธิ์อาคารห้องพิพาทให้แก่ผู้อื่นไปแล้วแต่โจทก์ยังมีหน้าที่ต้องส่งมอบอาคารหลังพิพาทให้แก่ผู้ซื้อเพื่อการรื้อถอนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 461 เมื่อจำเลยไม่ยอมออกจากอาคารที่เช่า โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมจำเลยได้เช่าอาคารพิพาทจากกรมประชาสงเคราะห์ต่อมาได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 316 ให้โอนทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และความรับผิดอันเกี่ยวกับงานด้านอาคารสงเคราะห์ การจัดสรรที่ดิน และการปรับปรุงแหล่งเสื่อมโทรมจากกรมประชาสงเคราะห์ให้โจทก์ดำเนินงานเมื่อสิ้นกำหนดเวลาการเช่าแล้ว จำเลยได้อยู่ในห้องเช่าต่อมา โจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อไป เพราะต้องการรื้อถอนอาคารที่พิพาทดังกล่าว โจทก์ได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย จำเลยไม่ยอมออกจากอาคารที่เช่า เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาท และส่งมอบห้องดังกล่าวคืนแก่โจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า นายวทัญญู ณ ถลาง เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและเป็นผู้ไม่อาจทำงานเต็มเวลาให้แก่การเคหะแห่งชาติ จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติและต้องห้ามมิให้เป็นผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 316 ข้อ 22(3) (5) จึงไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารห้องพิพาทโดยได้ประมูลขายให้แก่ผู้ซื้อไปแล้ว จึงไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยไม่เคยค้างชำระค่าเช่าแก่โจทก์ จึงไม่เป็นผู้ผิดนัดสัญญาเช่า ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากห้องพิพาทและส่งมอบอาคารดังกล่าวแก่โจทก์ พร้อมกับใช้ค่าเสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้เช่าห้องพิพาทจากโจทก์ครบกำหนดเวลาเช่าแล้ว จำเลยได้เช่าต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา ต่อมาได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 316 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 ให้โอนกิจการทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และความรับผิดของกรมประชาสงเคราะห์เฉพาะที่เกี่ยวกับกิจการอาคารสงเคราะห์ให้แก่การเคหะแห่งชาติซึ่งก่อตั้งขึ้นตามประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวการเคหะแห่งชาติได้ประกวดราคาอาคารสงเคราะห์ดังกล่าวโดยเจ้าของร้านทรงชัยค้าไม้เป็นผู้ซื้อได้และจะต้องรื้อถอนไป การเคหะแห่งชาติได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยและให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง จำเลยไม่ยอมส่งมอบอาคารและชำระค่าเช่า นายวทัญญู ณ ถลาง ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติจึงได้มอบอำนาจให้นายนินนาท สาครรัตน์ เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ นายวทัญญู ณ ถลางดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติมาก่อน ต่อมาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ที่จำเลยฎีกาว่า นายวทัญญู ณ ถลาง ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติเป็นผู้ขาดคุณสมบัติและต้องห้ามมิให้เป็นผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติเพราะได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมืองและเป็นผู้ไม่อาจทำงานเต็มเวลาให้แก่การเคหะแห่งชาติตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 316 ข้อ 22(3)(5) และไม่มีสิทธิมอบอำนาจให้นายนินทาท สาครรัตน์ ฟ้องคดีนี้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า นายวทัญญู ณ ถลาง เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติโดยธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2515 และต่อมามีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบทเฉพาะกาล มาตรา 234 ที่มิให้นำมาตรา 102, 103 ของรัฐธรรมนูญดังกล่าวมาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผลจึงมีว่านายวทัญญู ณ ถลาง ย่อมจะดำรงตำแหน่งการเมืองและตำแหน่งหรือหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐได้ในคราวเดียวกันนายวทัญญู ณ ถลาง จึงไม่เป็นผู้ที่ไม่อาจทำงานเต็มเวลาให้แก่การเคหะแห่งชาติตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 316 ข้อ 22(3) และ (5) นายวทัญญู ณ ถลาง จึงอาจดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติต่อไป และมีสิทธิที่จะมอบอำนาจให้นายนินนาท สาครรัตน์ ฟ้องคดีนี้ได้ ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ เพราะได้โอนขายกรรมสิทธิ์อาคารห้องพิพาทให้แก่ร้านทรงชัยค้าไม้แล้วนั้น เห็นว่าโจทก์ยังมีหน้าที่ต้องส่งมอบอาคารหลังพิพาทให้แก่ผู้ซื้อเพื่อการรื้อถอนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 461 เมื่อจำเลยไม่ยอมออกจากอาคารที่เช่า โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

พิพากษายืน

Share