แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทฟ้องขับไล่ให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของมารดาจำเลย จำเลยปลูกบ้านเรือนอยู่โดยอาศัยสิทธิของมารดา เมื่อจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าที่พิพาทนั้นเป็นของจำเลย จึงไม่เป็นการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ราคา 2,500 บาท โจทก์แจ้งให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนออกไป แต่จำเลยไม่รื้อ ขอให้บังคับ
จำเลยให้การว่า ที่ดินเป็นของนางขำมารดาจำเลยที่ 1 นางขำได้ครอบครองที่ดินแปลงนี้เป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว ที่พิพาทจึงเป็นของนางขำ จำเลยปลูกเรือนอยู่โดยอาศัยสิทธิของนางขำ
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาท ฟ้องขับไล่ให้จำเลยรื้อถอนเรือนออกไปจากที่พิพาท จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนางขำมารดาจำเลย จำเลยปลูกเรือนอยู่โดยอาศัยสิทธิของนางขำ เมื่อจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย จึงไม่เป็นการกล่าวแก้ข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ตามนัยฎีกาที่ 1619/2506 ระหว่าง ม.จ.หญิงอัจฉราฉวี โจทก์ นายทิงเฮง แซ่โอ๊ว จำเลย แล้วศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ พิพากษาขับไล่จำเลย