คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยพาอาวุธปืนไปที่หน้าโรงงานของบริษัทที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้มีอาวุธปืนติดตัว เนื่องจาก นาง ก. พานางสาว น. ไปพบบิดามารดาของจำเลยที่บ้านจำเลยเพื่อเจรจาในการที่จะสู่ขอนางสาว น. เป็นภรรยาจำเลย นาง ก. และนางสาว น. จะกลับบ้าน เป็นเวลาดึกมากแล้ว จำเลยจึงนั่งรถไปส่งบุคคลทั้งสองที่บริษัท การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ เพราะไม่แน่ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแต่เป็นกรณีที่สมควรรอการลงโทษจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๓๗๑, ๙๑ ริบหัวกระสุนปืนของกลาง
นางผ่อง เผื่อนพินิจ ภริยาผู้ตายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๗๒, ๓๗๑, ๙๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ จำคุก ๒ ปี ฐานมีอาวุธปืนมีเครื่องหมายทะเบียนของบุคคลอื่นพร้อมกระสุนปืนในความครอบครอง จำคุก ๖ เดือน ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรจำคุก ๓ เดือนรวมจำคุก ๒ ปี ๙ เดือน ริบหัวกระสุนปืนของกลาง
โจทก์ร่วมและจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา ๗, ๗๒ จำคุก ๖ เดือนและปรับ ๑,๐๐๐ บาท ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ เดือนปรับ ๕๐๐ บาท ให้รอการลงโทษไว้ ๒ ปี คืนหัวกระสุนปืนของกลางแก่เจ้าของ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยยิงผู้ตายเพื่อป้องกันสิทธิของตนโดยสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิดข้อหาฆ่าผู้อื่น และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายต่อไปว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยพาอาวุธปืนไปที่หน้าโรงงานของบริษัทพูลพิพัฒน์ จำกัด โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้มีอาวุธปืนติดตัว เนื่องจากนางกิมล้วนพานางสาวนิยมไปพบบิดามารดาของจำเลยที่บ้านจำเลยเพื่อเจรจาในการที่จะสู่ขอนางสาวนิยมเป็นภรรยาจำเลย นางกิมล้วนและนางสาวนิยมจะกลับบ้าน เป็นเวลาดึกมากแล้ว จำเลยจึงนั่งรถไปส่งบุคคลทั้งสองที่บริษัทพูลพิพัฒน์ จำกัด ที่เกิดเหตุ การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ เพราะไม่แน่ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่เป็นกรณีที่สมควรรอการลงโทษจำเลยเท่านั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องข้อหานี้ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ วรรคแรก,๗๒ ทวิ วรรคสอง ซึ่งแก้ไขใหม่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ อีกข้อหาหนึ่ง ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดจำคุก ๓ เดือน ปรับ ๑,๕๐๐ บาท ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๒ เดือน ปรับ ๑,๐๐๐ บาท แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ มีกำหนด ๒ ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ที่แก้ไขแล้วนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share