แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76 วรรคสอง ซึ่งมีระวางโทษให้จำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทการที่ศาลอุทธรณ์วางโทษจำคุกจำเลยเพียง 2 ปี เป็นการลงโทษขั้นต่ำตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้วจึงลงโทษต่ำกว่านี้ไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5จำนวน 9 ห่อพลาสติก น้ำหนัก 19.51 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 26, 76 ที่แก้ไขแล้ว
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 26, 76 ที่แก้ไขแล้ว ให้ลงโทษจำคุก 8 เดือน และปรับ 2,000 บาท รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 เดือน และปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน
โจทก์อุทธรณ์ว่า ศาลชั้นต้นลงโทษต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26, 76 วรรคสองที่แก้ไขแล้ววางโทษจำคุก 2 ปี จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี
จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 76 วรรคสอง ระวางโทษให้จำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปีและปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท การที่ศาลอุทธรณ์วางโทษจำคุกจำเลยเพียง 2 ปี เป็นการลงโทษขั้นต่ำตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว อนึ่ง กัญชาที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมีจำนวนมาก พฤติการณ์ของการกระทำผิดนับว่าร้ายแรง ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือรอการลงโทษให้แก่จำเลยได้…”
พิพากษายืน.