คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ผู้ให้เช่านาจะมีสิทธิบอกเลิกการเช่าก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่าก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่า ในกรณีที่ผู้เช่าให้เช่าที่นาเพื่อการอย่างอื่นนอกจากการทำนา โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า ดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2517 มาตรา 32 (3 ก็ตาม แต่การบอกเลิกก็ต้องปฏิบัติตามมาตรา 35 ซึ่งมีวิธีการบอกเลิกการเช่านาเป็นขั้นตอนตามกฎหมายเพื่อให้คณะกรรมการควบคุมการเช่านาได้พิจารณาก่อนว่ามีเหตุสมควรหรือม่อย่างไร โดยให้ผู้เช่ามีโอกาสคัดค้านด้วย โจทก์จะถือเอาคำฟ้องเป็นการบอกเลิกการเช่าไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เช่านาของโจทก์ตามโฉนดเลขที่ ๑๕๒ ตำบลหนองหกวา สายบนฝั่งใต้ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ทางด้านเหนือ เนื้อที่ ๒๕ ไร่เพื่อทำนา ครั้นเมื่อประมาณวันที่ ๑๓ หรือ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๙ จำเลยได้บังอาจเข้าไปปลูกบ้านลงในที่นาดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ห้ามปราม จำเลยไม่เชื่อฟัง เป็นการผิดสัญญาเช่าเพราะใช้ทรัพย์สินที่ให้เช่าเพื่อการอื่น โจทก์ขอถือเอาคำฟ้องนี้เป็นการบอกเลิกการเช่าในฤดูการทำนาปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ขอให้ศาลพิพากษาว่าการเช่านาระหว่างโจทก์จำเลยสิ้นสุดลงในฤดูทำนาปี พ.ศ. ๒๕๑๙ บังคับให้จำเลยรื้อบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไป ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง เว้นแต่จะเข้าไปเพื่อทำนาตามปกติ ในฤดูทำนาปีตาม พ.ศ. ๒๕๑๙
จำเลยให้การว่าจำเลยได้เช่าที่ดินของโจทก์เพื่อทำนา จำเลยปลูกบ้านอาศัยและเก็บเครื่องมือในการทำนาในที่ดินที่เช่าช่วงเพียง ๕๐ ตารางวา มีสิทธิทำได้ การบอกเลิกการเช่านา ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ มาตรา ๓๒, ๓๕ จะถือเอาคำฟ้องเป็นการบอกเลิกการเช่าไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ก่อนวันนัดสืบพยาน จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการเบิกเลิกการเช่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในมาตรา ๒๔
ศาลชั้นต้นชี้ขาดเบื้องต้นแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ผู้ให้เช่านาจะมีสิทธิบอกเลิกการเช่าก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลาการเช่า ในกรณีที่ผู้เช่าใช้ที่นาเพื่อการอย่างอื่นนอกจากการทำนา โดยไมได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าดังที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ มาตรา ๓๒ (๓) แต่การบอกเลิกก็ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๓๕ ซึ่งบัญญัติว่า “การบอกเลิกการเช่านาตามมาตรา ๓๒ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) หรือ (๗) ผู้ให้เช่านาต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อผู้เช่านาพร้อมทั้งแสดงเหตุแห่งการบอกเลิกการเช่านาและส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวต่อประธานคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอ
เมื่อได้รับสำเนาหนังสือตามวรรคหนึ่ง ให้ประธานคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอแจ้งให้ผู้เช่านาที่ถูกบอกเลิกการเช่านาทราบ เพื่อคัดค้านการบอกเลิกการเช่านาต่อคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอภายในกำหนดสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานคณะกรรมการควบคุมการเช่านาประจำอำเภอ ถ้าผู้เช่าไม่คัดค้านภายในกำหนดเวลา ให้ถือว่าการบอกเลิกการเช่านามีผลเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันดังกล่าว”
ตามบทบัญญัติข้างต้นเห็นได้ว่า วิธีการบอกเลิกการเช่านามีขั้นตอนตามกฎหมายเพื่อให้คณะกรรมการควบคุมการเช่านาได้พิจารณาก่อนว่ามีเหตุสมควรหรือไม่อย่างไร โดยให้ผู้เช่ามีโอกาสคัดค้านด้วย โจทก์จะถือเอาคำฟ้องเป็นการบอกเลิกการเช่าจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายืน

Share