แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์ขยายเวลาการวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทนจำเลยไปอีก 10 วัน และโจทก์ได้นำเงินดังกล่าวมาวางศาลภายในกำหนดที่ศาลชั้นต้นขยายระยะเวลาให้ ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์จึงเป็นการชอบแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่นาหนึ่งแปลง เมื่อประมาณ ๕ ปีมานี้ โจทก์กู้เงินจำเลย ๔๐๐ บาท ได้มอบที่ดินดังกล่าวให้จำเลยเป็นประกันและทำกินต่างดอกเบี้ยโดยไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ แต่ตกลงกันว่าโจทก์มีเงินเมื่อไรให้นำไปชำระและไถ่ถอนคืนได้ ต่อมาโจทก์นำเงินไปชำระเพื่อไถ่ถอนที่ดินคืน จำเลยไม่ยอมรับ ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยรับชำระเงินและส่งมอบที่ดินคืนให้โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่นาของโจทก์คือที่นาภายในเส้นสีแดงซึ่งเป็นที่พิพาท นอกนั้นเป็นที่นาของจำเลย โจทก์ไม่เคยมอบที่นาให้จำเลยทำกิน โจทก์กู้เงินจำเลยไป ๔,๐๐๐ บาท ไม่ใช่ ๔๐๐ บาท และได้ทำหลักฐานสัญญากู้เงินลงที่พิพาทของโจทก์ดังกล่าวไว้เป็นประกัน ไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ โจทก์ไม่ชำระดอกเบี้ย ๓ ปีแล้ว จำเลยทวงถามโจทก์ก็ไม่ชำระและโกรธเคืองจำเลย ต่อมาจำเลยให้บุตรไปออก น.ส.๓ ที่นาของจำเลย โจทก์ไปคัดค้าน ทางการเปรียบเทียบแล้วไม่ตกลงกัน เนื่องจากโจทก์เป็นหนี้จำเลย๔,๐๐๐ บาท และยังไม่ชำระ จึงฟ้องแย้งให้ศาลบังคับโจทก์ให้ชำระเงินแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ที่นาภายในเส้นสีดำเป็นของโจทก์และมอบให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ส่วนที่นาภายในเส้นสีแดงเป็นที่หัวไร่ปลายนาของโจทก์ โจทก์ไม่เคยนำที่ดินนี้ไปประกันเงินกู้แก่จำเลย แผนที่ท้ายคำให้การไม่ถูกต้อง โจทก์กู้เงินจำเลยเพียง ๔๐๐ บาท ไม่ใช่ ๔,๐๐๐ บาท ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับเงิน ๔๐๐ บาทจากโจทก์และส่งมอบนาพิพาทคืนให้โจทก์ ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องต่อไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์และให้โจทก์ชำระหนี้เงินกู้ ๔,๐๐๐ บาท แก่จำเลย
โจทก์ฎีกา
จำเลยตั้งประเด็นมาในคำแก้ฎีกาว่าโจทก์มิได้นำค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนจำเลยมาวางศาลในขณะยื่นคำฟ้องฎีกา จึงเป็นคำฟ้องฎีกาที่ไม่ชอบ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์ขยายเวลาการวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทนจำเลยไปอีก ๑๐ วัน ตามคำสั่งในคำร้องของโจทก์ลงวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๒๔ และโจทก์ได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทนดังกล่าวมาวางศาลตามรายงานเจ้าหน้าที่ ลงวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๒๔ ในสำนวน การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ไว้ จึงเป็นการชอบแล้ว
และศาลฎีกาได้วินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ได้นำไปประกันเงินกู้จำนวน ๔๐๐ บาท ที่โจทก์กู้จากจำเลย
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น