คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ทราบว่า ป. ถึงแก่กรรมตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 แต่โจทก์มาฟ้องคดีในปี 2519 เพื่อบังคับให้ทายาทของ ป. โอนที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ ป. ทำไว้กับโจทก์ คดีโจทก์ขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสาม

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ป. โอนที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ ป. ทำไว้กับโจทก์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีโจทก์ขาดอายุความพิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ฟังข้อเท็จจริงได้จากคำเบิกความของตัวโจทก์ว่า นายเปลี่ยน เอมพงษ์ ถึงแก่กรรมเมื่อปี พ.ศ. 2517 แล้ว โจทก์ได้ไปหาภริยาและบุตรของนายเปลี่ยน เอมพงษ์ เพื่อจะตกลงเรื่องที่นายเปลี่ยนขายที่ดินให้แก่โจทก์ จึงฟังได้ว่าโจทก์ทราบว่านายเปลี่ยน เอมพงษ์ ถึงแก่กรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 แล้ว แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อปี พ.ศ. 2519 เป็นเวลาเกินหนึ่งปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสาม ที่โจทก์ฎีกาว่าบทบัญญัติมาตราดังกล่าวให้ใช้เฉพาะผู้ที่เป็นทายาทต่อทายาทของผู้ตายด้วยกัน โจทก์มิได้เป็นทายาทของนายเปลี่ยนผู้ตาย จำเลยจะยกอายุความ 1 ปีขึ้นต่อสู้ไม่ได้นั้น เห็นว่าบทมาตราดังกล่าวไม่ได้บัญญัติไว้ดังโจทก์ว่า”

พิพากษายืน

Share