แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จะทำสัญญาเช่านากันไว้ก่อนประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา ก็ดี แต่เมื่อเก็บค่าเช่ากันนั้น ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านาแล้ว ดังนี้ ถ้าค่าเช่าที่เก็บเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เจ้าของนาผู้ให้เช่าก็ย่อมผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่านา 2493 มาตรา16.
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเก็บค่าเช่านาจากนายย้าผู้เช่าทำเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลย ให้นายบุญธรรมเช่านาไปแล้ว นายบุญธรรมให้นายย้าทำนา เมื่อจำเลยไปเก็บค่าเช่านายบญธรรมจึงให้ไปเก็บกับ นายย้า ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง เมื่อค่าเช่าที่เก็บเกินอัตราแล้ว จำเลยก็ย่อมมีความผิด./
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบังอาจเก็บค่าเช่านาจากนายย้าผู้เช่าทำเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ควบ คุมการเช่านา ๒๔๙๓
จำเลยให้การว่า ให้นายบุญธรรมเช่านา แต่เมื่อจะเก็บค่าเช่านานายบุญธรรมให้ไปเก็บกับนายย้า ความจริงนายย้า ไม่ใช่ผู้เช่านา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่านา พ.ศง ๒๔๙๓ มาตรา ๑๖ ปรับจำเลย ๑๕๐ บาท ลดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๕๔ หนึ่งในสามคงปรับ ๑๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเก็บค่าเช่านาจากนายย้า แม้จำเลยจะให้นายบุญธรรมเช่าไปแล้วนายบุญธรรมให้นายย้าเป็นผู้ ทำ เมื่อจำเลยไปเรียกเก็บค่าเช่าจากนายย้า ดังนี้ ข้อเท็จจริงไม่ต่างกับฟ้อง
จำเลยเก็บค่าเช่าเกินอัตราเมื่อประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาแล้ว แม้จะทำสัญญาเช่ากันไว้ก่อน จำเลย ก็ต้องมีความผิด เพราะจำเลยทำละเมิดกฎหมายซึ่งได้ประกาศใช้แล้ว
จึงพิพากษายืน.