แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าเมื่อเดือน 8 ปีที่แล้วมานี้นายเต่าวายชนม์เสียคงเหลือแต่จำเลย จำเลยได้บอกปัดไม่ให้ความอุปการะเลี้ยงดู นางจิบ(ผู้ให้)ดังเช่นเคยและขับไล่มิให้นางจิบอาศัยอยู่ต่อไป นางจิบจึงมอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องให้จำเลยคืนที่ดินนั้น(ทรัพย์ที่นางจิบยกให้)แสดงว่าจำเลยบอกปัดไม่รับเลี้ยงดูและให้ที่อยู่อาศัยแก่นางจิบเมื่อเดือน 8 ที่แล้วซึ่งเป็นเดือนปีที่นายเต่าสามีจำเลยตาย ลงด้วยพร้อมกัน
การฟ้องถอนคืนการให้ ต้องฟ้องภายในกำหนดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 533
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ 10 ปีมานี้นางจิบมารดาโจทก์และนายเต่าได้ยกที่นาและเรือนให้นายเต่ากับนางเชยจำเลย ซึ่งเป็นภรรยานายเต่าโดยนายเต่านางเชยต้องรับเลี้ยงดู ให้ความอุปการะนางจิบจนตลอดชีวิตแต่นั้นมานายเต่านางเชยก็ได้รับเอานางจิบมาไว้ที่บ้านของจำเลยและเข้าครอบครองทำกินในนานี้ตลอดมา ครั้นเมื่อเดือน 8 ปีที่แล้วมานี้ นายเต่าวายชนม์เสีย คงเหลือแต่จำเลย ๆ ได้บอกปัดไม่ให้ความอุปการะเลี้ยงดูนางจิบดังเช่นเคย และขับไล่มิให้นางจิบอาศัยอยู่ต่อไป นางจิบต้องไปอาศัยโจทก์อยู่ตลอดมา จนเดี๋ยวนี้ นางจิบมอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนที่นาราคา 3,000 บาท เรือน 1 หลังราคา 500 บาท แก่นางจิบ
จำเลยต่อสู้หลายประการ กับตัดฟ้องว่าคดีโจทก์ขาดอายุความถอนคืนการให้
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่โจทก์ฎีกาว่าตามฟ้องจะถือว่าจำเลยเนรคุณโจทก์ เมื่อเดือน 8 พ.ศ. 2491 ไม่ได้ ตามฟ้องโจทก์บรรยายแต่ว่านายเต่าตายเดือน 8 พ.ศ. 2491 เท่านั้น ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์กล่าวฟ้องไว้ชัดว่าจำเลยบอกปัดไม่รับเลี้ยงดู และให้ที่อยู่อาศัยแก่นางจิบ เมื่อเดือน 8 ปีที่แล้วซึ่งเป็นเดือนปีที่นายเต่าสามีจำเลยตายลงด้วยพร้อมกัน นับแต่นางจิบรู้และได้รับเหตุเนรคุณของจำเลย มาจนถึงวันโจทก์ฟ้องคดี จึงเกินกว่า 6 เดือน คดีขาดอายุความดังศาลล่างทั้งสองชี้ขาดมา จึงพิพากษายืน