คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2466

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

องค์ฉ้อ,ยักยอก พิจารณาอาญาแปลกฎหมาย น่าที่นำสืบคำพยานในเรื่องก่อน

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๐๔ กับมาตรา ๓๑๔
ฎีกาตัดสินว่า การที่จะลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๐๔ ต้องประกอบพร้อมด้วยองค์เหล่านี้
๑. จำเลยกล่าวความเท็จ คือข้อความไม่จริงในขณะเวลาที่กล่าว
๒. แกล้งปกปิดเหตุการณ์อย่างใด ๆ อันเปนน่าที่ซึ่งจำเลยต้องบอกให้แจ้งในขณะเวลาทำผิด
๓. เจตนาทุจริต
โจทย์ต้องถูกหลอกลวงด้วยข้อความนั้น ๆ ให้ส่งทรัพย์ให้จำเลย
คดีนี้จำเลยรับสัญญาจะส่งทรัพย์คืนให้โจทย์ แม้ข้อสัญญานี้พอจะเปนผิดได้ก็ดี แต่โจทย์ก็ไม่ได้ส่งทรัพย์ให้แก่จำเลย เพราะเหตุที่ได้หลงเชื่อข้อความที่จำเลยกล่าว จึงเปนอันวินิจฉัยได้ว่าโจทย์สืบไม่ได้ความว่าจำเลยทำผิดตามมาตรา ๓๐๔ และทั้งไม่ผิดตามมาตรา ๓๑๔ โดยเหตุว่าทรัพย์ที่พิพาทได้ตกไปถึงมือจำเลยโดยอาการซึ่งสามารถจะโอนกรรมสิทธิไปยังคนที่ ๓ ได้
ศาลไม่มีอำนาจที่จะแปลกฎหมายหรือขยายความให้นอกเหนือไปจากความหมายในตัวบทมาตราได้ ลำพังแต่เจตนาฉ้ออย่างเดียวยังไม่เปนความผิดตามข้อหาของโจทย์
คดีนี้เปนน่าที่ของโจทย์จะต้องนำสืบคดีฝ่ายตนให้เห็นประจักษ์ก่อนที่ศาลจะพิจารณาข้อต่อสู้ของจำเลย
คำพยานโจทย์ในเรื่องก่อน ศาลจะอ้างมาวินิจฉัยในคดีอาญาอีกเรื่องหนึ่งไม่ได้ เว้นไว้แต่จะเรียกพยานมาเบิกความต่อหน้าศาลอีก

Share