คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจากเจ้าของ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของผู้อื่น ดังนี้โจทก์ย่อมมีสิทธิ์สืบได้ว่าเจ้าของได้ทรัพย์พิพาทมาอย่างไรไม่เป็นการนอกประเด็น และมีสิทธิสืบว่าผู้อื่นที่จำเลยอ้างนั้นได้อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย เพราะเป็นการสืบหักล้างคำให้การต่อสู้ของจำเลย
ในกรณีที่จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนว่าเป็นการมิชอบนั้น เมื่อปรากฏว่าได้สืบพยานเสร็จสิ้นไปทั้งสองฝ่ายแล้ว และในฎีกาของจำเลยก็หาได้ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่แต่ประการใดไม่ และแม้การที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนจะเป็นการชอบหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้คำวินิจฉัยคำพยานของศาลในคดีเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ดังนี้ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ก็ย่อมฟังไม่ขึ้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยโจทก์ซื้อมาจากนายเย็นจำเลยโต้เถียงกรรมสิทธิ์กับโจทก์และไม่ยอมออกจากที่พิพาท จึงขอให้ศาลขับไล่

จำเลยต่อสู้ว่าเรือนและที่ดินพิพาทไม่ใช่ของนายเย็น แต่เป็นของนายเซียะ ๆ ทำพินัยกรรมยกให้จำเลย

ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทและเรือนพิพาทเป็นของนายเย็น ไม่ใช่ของนายเซียะ และนายเย็นขายให้โจทก์โดยชอบ จึงพิพากษาขับไล่จำเลย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์

ส่วนที่จำเลยคัดค้านในข้อที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนว่าเป็นการมิชอบนั้น เรื่องนี้ได้สืบพยานเสร็จสิ้นไปทั้งสองฝ่ายแล้วในฎีกาจำเลยก็หาได้ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานกันใหม่แต่ประการใดไม่ แม้การที่ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยสืบก่อนจะเป็นการชอบหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้คำวินิจฉัยคำพยานของศาลในคดีนี้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด

ที่จำเลยฎีกาว่าการที่ศาลยอมให้จำเลยนำสืบถึงข้อที่ว่าที่พิพาทเดิมเป็นของนางขี้นาก ๆ ยกให้นายเย็น ตลอดจนนายเซียะนางพุ่มอยู่โดยทางอาศัย เป็นการนำสืบนอกประเด็นนั้น เห็นว่าหาใช่นอกประเด็นไม่ เพราะโจทก์ฟ้องว่าโจทก์ซื้อทรัพย์พิพาทมาจากนายเย็น โจทก์ย่อมมีสิทธิสืบได้ว่า นายเย็นได้ทรัพย์พิพาทมาอย่างไร และที่สืบถึงข้อทีนายเซียะนางพุ่มอาศัยก็เป็นการสืบหักล้างคำให้การต่อสู้ของจำเลยเพราะจำเลยสู้ว่าทรัพย์พิพาทเป็นของนายเซียะนางพุ่ม

ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืน

Share