แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ลงนามเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คฉบับหนึ่ง จำเลยที่ 2 ลงนามสลักหลังเช็คนั้น แต่โจทก์ขึ้นเงินไม่ได้ในวันที่ลงในเช็ค เช่นนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 400,467 บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น เมื่อจำเลยที่ 2 ลงชื่อสลักหลังเช็คซึ่งเป็นตั๋วเงินประเภทหนึ่ง ก็จะปัดตนให้พ้นความรับผิดไปหาได้ไม่ ฐานะของจำเลยที่ 2 ไม่ใช่ผู้ค้ำประกันหรือเป็นผู้รับอาวัล เมื่อเช็คฉบับนี้ทางธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผิดตามที่ตนได้ลงนามสลักหลังเช็คนั้นไว้ด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คเลขที่ ข.๑.๓๘๘๕๙๔ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด เงิน ๑๕,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๑ ลงนามสั่งจ่าย จำเลยที่ ๒ ลงนามสลักหลัง ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแจ้งว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย จึงฟ้องขอให้จำเลยร่วมกันใช้เงินพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ลงนามในเช็คดังฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า ไม่เคยสลักหลังเช็ค โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินกู้ตามเช็ค โจทก์ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้จำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ ไม่ทราบ จำเลยที่ ๒ ย่อมพ้นจากความรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกัน
ในวันนัดพิจารณา จำเลยที่ ๑ รับจะใช้เงินให้โจทก์ จำเลยที่ ๒ รับว่า ได้เซ็นชื่อสลักหลังเช็คพิพาทในฐานะผู้ค้ำประกันจริง แล้วโจทก์กับจำเลยที่ ๒ รับกันว่า มีประเด็นที่จะนำสืบข้อเดียวว่า จำเลยที่ ๒ จะหลุดพ้นจากความรับผิดหรือไม่ เพราะจำเลยที่ ๒ อ้างว่าโจทก์ยอมผ่อนเวลาให้จำเลยที่ ๑ โดยไม่แจ้งให้จำเลยที่ ๒ ทราบทำให้จำเลยที่ ๒ หลุดพ้นความรับผิด
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน และพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ ผู้สั่งจ่าย และจำเลยที่ ๒ผู้สลักหลังเช็คย่อมต้องรับผิดต่อผู้ทรงเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๐๐,๔๖๗ ให้จำเลยทั้งสองใช้เงินตามฟ้อง
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ ๑ ลงนามเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คฉบับหนึ่ง จำเลยที่ ๒ ลงนามสลักหลังเช็คนั้น โจทก์ขึ้นเงินไม่ได้ในวันที่ลงในเช็ค จำเลยที่ ๒ ฎีกาว่า การที่ตนได้สลักหลังเช็ค ก็เท่ากับจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน หรือเป็นผู้รับอาวัล จึงไม่ควรต้องรับผิด ศาลฎีกาเห็นว่า ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๐๐,๔๖๗ บัญญัติว่า บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น เมื่อจำเลยที่ ๒ ลงชื่อสลักหลังเช็คซึ่งเป็นตั๋วเงินประเภทหนึ่ง ก็จะปัดตนให้พ้นความผิดไปหาได้ไม่ ฐานะของจำเลยที่ ๒ ไม่ใช่ผู้ค้ำประกันหรือเป็นผู้รับอาวัล เมื่อเช็คฉบับนี้ทางธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยที่ ๒ ก็ต้องรับผิดตามที่ตนได้ลงนามสลักหลังเช็คนั้นไว้ด้วย ส่วนปัญหาอื่นนั้น ตามรายงานกระบวนพิจารณา พึงอนุมานได้ว่าเป็นอันสละ ไม่ยกขึ้นเป็นข้อพิพาท จึงพิพากษายืน