คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1034/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ค่าซ่อมรถที่ผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่าไปทำการซ่อมนั้น ถือว่าเป็นค่าเสียหาย หากผู้ให้เช่าเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้เช่าเรียกร้องเอาได้
ฟ้องว่าจำเลยเอารถชำรุดใช้ไม่ได้มาให้โจทก์เช่า 1 ปีโดยให้โจทก์นำไปซ่อมให้ดี โจทก์เสียเงินซ่อมดีแล้วนำไปรับจ้าง จำเลยแจ้งความจับเอารถคืน และฟ้องโจทก์ได้กล่าวไปถึงเรื่องสามีจำเลยรับรองว่า ค่าซ่อมรถจะคืนให้ด้วยดังนี้ถือว่าเป็นฟ้องเรียกค่าซ่อมรถจากจำเลยที่มิได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่า หาใช่เป็นการบรรยายฟ้องเพื่อให้จำเลยรับผิดตามคำรับรองของสามีจำเลยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์บันทุกและรถบดถนน รถสองคันนี้ชำรุดใช้การไม่ได้ เมื่อ มิ.ย.๙๘ จำเลยได้ตกลงให้โจทก์เช่าในอัตราค่าเช่าเดือนละ ๑,๐๐๐ บาท โดยให้โจทก์เป็นผู้ซ่อมรถให้ใช้การได้โดยทุนทรัพย์ของโจทก์มีกำหนด ๑ ปี โจทก์เอารถไปซ่อมสำหรับรถบันทุกเป็นเงิน ๙๖๐ บาท รถบดเป็นเงิน ๘,๓๖๐ บาท รวมเป็นเงิน ๙,๓๒๐ บาท ครั้น ก.ย.๙๘ จำเลยขอรถบันทุกคืนไปตกลงให้โจทก์เช่ารถบดคันเดียวมีกำหนด ๑ ปี ค่าเช่าเดือนละ ๑,๐๐๐ บาท ต่อมา พ.ย.๙๘ โจทก์มอบรถบดให้นายฉลวยนำไปรับจ้าง ระหว่างทางจำเลยไปแจ้งความตำรวจเรียกตัวนายฉลวยไปสถานีตำรวจ หลวงรอบรู้กิจสามีจำเลยแนะนำให้นายฉลวยนำรถบดกลับไปไว้บ้านจำเลย ส่วนค่าซ่อมรถจะคืนให้ นายฉลวยนำรถบดกลับไปไว้แล้ว แต่หลวงรอบรู้กิจและจำเลยไม่ยอมชำระค่าซ่อมรถแก่โจทก์ ๆ จึงฟ้องเรียกเงิน ๙,๓๒๐ บาท
จำเลยให้การว่า ไม่ใช่เจ้าของรถ ๒ คันนั้น ไม่เคยตกลงให้โจทก์เช่าหรือให้โจทก์ออกเงินค่าซ่อมรถ สามีจำเลยให้นายฉลวยเรียกช่างมาซ่อม โดยสามีจำเลยออกเงินค่าซ่อมไป ๖,๐๐๐ บาท จำเลยไม่เคยจะคืนเงินค่าซ่อมแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาเสร็จวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์เรียกเงินค่าซ่อมรถตามคำรับรองของสามีจำเลยไม่ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย แม้จำเลยเป็นผู้ให้โจทก์ไป จำเลยมิได้รับรองแก่โจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยต่อไป แล้วพิพากษาคดีใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืนโดยวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องข้อเท็จจริง ให้เห็นว่า จำเลยเอารถที่ชำรุดใช้การไม่ได้มาให้โจทก์เช่า ๑ ปี โดยให้โจทก์นำไปซ่อมแซมให้ดีเอาเอง โจทก์เสียเงินค่าซ่อมแซมจนดีแล้วและนำไปใช้ทำการรับจ้าง จำเลยกลับแจ้งความให้ตำรวจจับเอารถกลับคืน โจทก์จึงไม่สามารถใช้รถได้ตามสัญญา การที่โจทก์ลงทุนไปก็เป็นความเสียหายส่วนหนึ่งของโจทก์ ๆ จึงเรียกร้องในฐานผิดสัญญาได้ การที่โจทก์กล่าวในฟ้องถึงเรื่องสามีจำเลยนั้น เป็นการบรรจยายเหตุการณ์อีกตอนหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับสามีของจำเลยในขณะที่จะเอารถคืนเท่านั้น ไม่เป็นเหตุทำให้คำฟ้องอันเกี่ยวกับการผิดสัญญาเช่าตอนต้นเสียไปไม่

Share