คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การจับโดยไม่ต้องมีหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78(4) นั้น ถ้าเป็นกรณีจับบุคคลในที่รโหฐาน จะต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 81(1) ประกอบกับมาตรา 92 ด้วย
จำเลยทำร้ายร่างกาย ด. ด.ไปแจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้านขอให้จับ แต่วันนั้นจับไม่ได้เพราะมืด รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านพา ด.ไปแจ้งความต่อผู้บังคับกอง ผู้บังคับกองให้ตำรวจไปกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อจับ แต่ไม่พบจึงพากันกลับ ผู้บังคับกองได้สั่งด้วยวาจาว่า ถ้าพบให้จับจำเลยมาดำเนินคดี ตอนเย็นวันนั้นเองผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพากันไปจับจำเลยโดยคนทั้งสองไม่มีหมายจับ พบจำเลยอยู่ใต้ถุนบ้าน ท. ผู้ใหญ่บ้านแจ้งแก่จำเลยว่า ตำรวจต้องการตัวเรื่องทำร้ายร่างกาย ด. จำเลยไม่ยอมให้จับและต่อสู้ขัดขวาง การเข้าไปจับจำเลยถึงใต้ถุนบ้าน ท. อันเป็นที่รโหฐานเช่นนี้ เป็นกรณีซึ่งอยู่ในบังคับของมาตรา 81(1) ประกอบกับมาตรา 92 ด้วย เมื่อกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 92 การเข้าไปจับนั้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยขัดขวางการจับกุมจึงไม่เป็นความผิดฐานต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายบัวผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและนายเหลี่ยมผู้ใหญ่บ้านจะเข้าจับกุมจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นอันเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่ จำเลยได้ขัดขวางการจับกุมโดยขัดขืนไม่ยอมให้นายบัวและนายเหลี่ยมจับกุมตามหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายนางสาวดวง นางสาวดวงและมารดาจึงไปแจ้งความต่อนายเหลี่ยมผู้ใหญ่บ้านขอให้จับ แต่วันนั้นจับไม่ได้เพราะมืด รุ่งเช้านายเหลี่ยมได้พาคนทั้งสองไปแจ้งความต่อผู้บังคับกอง ผู้บังคับกองให้ตำรวจไปกับนายเหลี่ยมเพื่อจับ แต่ไม่พบจำเลยจึงพากันกลับ แล้วผู้บังคับกองได้สั่งด้วยวาจาว่า ถ้าพบให้จับกุมจำเลยมาดำเนินคดี ในวันนั้นเองเวลาประมาณ ๑๘ นาฬิกา นางสาวดวงและมารดาไปบอกนายเหลี่ยมว่าจำเลยอยู่ที่บ้านนายทองสุข ขอให้ไปจับ นายเหลี่ยมกับนายบัวผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจึงพากันไปที่นั่น โดยคนทั้งสองไม่มีหมายจับ เมื่อพบจำเลยอยู่ใต้ถุนบ้านนายทองสุข นายเหลี่ยมได้แจ้งแก่จำเลยว่า ตำรวจต้องการตัวเรื่องจำเลยทำร้ายร่างกายนางสาวดวง แต่จำเลยไม่ยอมให้จับ ได้ต่อสู้ขัดขวาง แต่ในที่สุดถูกจับได้
วินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า นายบัวและนายเหลี่ยมมีอำนาจจับจำเลยได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ โดยเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๗๘(๔) ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “(๔) เมื่อมีผู้ขอให้จับกุมโดยแจ้งว่าบุคคลนั้นได้กระทำความผิด และแจ้งด้วยว่าได้ร้องทุกข์ไว้ตามระเบียบแล้ว” นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การจับโดยไม่ต้องมีหมายจับตามมาตรา ๗๘(๔) จะต้องเป็นกรณีจับบุคคลในสถานที่ซึ่งมิใช่ที่รโหฐาน แต่ข้อเท็จจริงแห่งคดีนี้ได้ความชัดว่า ผู้จับทั้งสองที่ได้กล่าวนามมาแล้ว เข้าไปจับจำเลยถึงใต้ถุนบ้านนายทองสุขอันเป็นที่รโหฐาน จึงเป็นกรณีซึ่งอยู่ในบังคับของมาตรา ๘๑(๑) ประกอบกับมาตรา ๙๒ ด้วย เมื่อกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๙๒ การเข้าไปจับนั้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยขัดขวางการจับกุมจึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน

Share