แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของที่ดินมีโฉนดได้สละเจตนาครอบครองที่ดินเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว บุคคลอื่นหลายคนได้เข้าครอบครองสืบเนื่องกันมา แม้การซื้อขายที่เป็นหลั่น ๆ กันไม่มีหนังสือ เจ้าของที่ดินเดิมจะฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่นั้นหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน 2 แปลง ทุนทรัพย์ 200 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่แปลงหนึ่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องทั้งสองแปลง ดังนี้ เป็นการแก้น้อย ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ย่อยาว
ความว่า ชั้นแรกสามีโจทก์ขายที่ดินมีโฉนดให้นายจือโดยไม่มีหนังสือซื้อขาย นายจือซื้อแล้วเข้าอยู่ได้ ๓ ปี ก็ขายต่อมาเป็นทอด ๆ จนถึงจำเลย จำเลยเข้าครอบครองมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๘๕ จนบัดนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลน จำเลยต่อสู้ว่าได้กรรมสิทธิ์โดยทางครอบครองแล้ว ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยครอบครองมายังไม่ถึง ๑๐ ปี พิพากษาให้ขับไล่จำเลย ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์กับสามีสละเจตนาครอบครองเกิน ๑๐ ปีแล้ว ขับไล่ไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องนี้ทุนทรัพย์เพียง ๒๐๐ บาท ศาลอุทธรณ์แก้ไขเพียงเล็กน้อย คู่ความฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย โจทก์สละเจตนาครอบครองที่ดินเป็นเวลาเกิน ๑๐ ปี ระหว่าง ๑๐ ปีนั้น ผู้อื่นและจำเลยเข้าครอบครองสืบเนื่องกันมา แม้การซื้อขายที่เป็นหลั่น ๆ กันไม่มีหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องขับไล่ไม่ได้
พิพากษายืน