แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็ค สืบเนื่องมาจากเหตุที่ ศ. มิได้นำเงินที่ขายลดไปให้จำเลยและมิได้แจ้งให้จำเลยทราบว่าได้นำเช็คไปขายลดให้แก่ผู้ใดหรือไม่ เป็นการกระทำโดยสุจริตตามสิทธิที่จำเลยจะพึงกระทำได้
เมื่อจำเลยสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คก่อนที่เช็คจะถึงกำหนดโดยสุจริต การที่จำเลยไม่นำเงินเข้าบัญชีธนาคารให้มีจำนวนพอจ่ายตามเช็ค จึงเป็นการที่จำเลยไม่มีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำคุก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท เพื่อให้นายศิริเกียรตินำไปขายลดเพื่อนำเงินมาให้จำเลย เมื่อนายศิริเกียรตินำเช็คมาขายลดให้โจทก์แล้ว นายศิริเกียรติไม่ได้นำเงินไปมอบให้จำเลย จำเลยจึงไม่มีโอกาสทราบว่านายศิริเกียรติได้นำเช็คไปขายลดให้แก่โจทก์หรือบุคคลใดหรือไม่ จำเลยแจ้งอายัดให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินภายหลังที่มอบเช็คให้นายศิริเกียรติไปเพียง ๖ วัน และเป็นวันก่อนที่จำเลยจะได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระเงินตามเช็คถึง ๒ เดือนเศษ การที่จำเลยสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็ค จึงสืบเนื่องมาจากเหตุที่นายศิริเกียรติมิได้นำเงินที่ขายลดไปให้จำเลยและมิได้แจ้งให้จำเลยทราบว่าได้นำเช็คไปขายลดให้แก่ผู้ใดหรือไม่ อันเป็นการกระทำโดยสุจริตตามสิทธิที่จำเลยจะพึงกระทำได้ กรณีมิใช่เป็นการกระทำโดยเจตนาทุจริต และเนื่องจากการที่จำเลยสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คก่อนที่เช็คจะถึงกำหนดโดยสุจริตดังกล่าวแล้ว การที่จำเลยไม่นำเงินเข้าบัญชีธนาคารให้มีจำนวนพอจ่ายตามเช็คในวันที่เช็คถึงกำหนดจ่ายเงิน การกระทำของจำเลยก็ไม่มีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์