แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 คุ้มครองการเช่าที่ใช้สิ่งปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย คือว่า เมื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ไม่จำต้องคำนึงว่าจะได้ใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจอย่างอื่นอีกหรือไม่ จะเป็นส่วนประธานหรืออุปกรณ์ไม่ต้องคำนึงถึง
(อ้างฎีกา 581/2491)
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าช่วงไปเพื่อทำการค้า จำเลยให้การรับว่าได้เช่าช่วงทำการค้ามาหลายปี หาได้เถียงว่าเป็นการเช่าอยู่อาศัยไม่ต้องถือว่า จำเลยเช่าห้องนี้เพื่อทำการค้า มิใช่เช่าเป็นที่อยู่อาศัยเลย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าดังกล่าวข้างต้น
ย่อยาว
ความว่า นางเฮียงได้เช่าห้องแถวจากโจทก์ แล้วได้ให้จำเลยเช่าช่วงเพื่อทำการค้า โดยโจทก์ได้รู้เห็นยินยอมในการเช่าช่วงรายนี้ โจทก์ได้ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่าการเช่าช่วงรายนี้ได้เป็นไปโดยความรู้เห็นยินยอมของโจทก์ ย่อมได้รับความคุ้มครองของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ๒๔๘๙ มาตรา ๑๖ พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ๒๔๘๙ คุ้มครองการเช่าที่ใช้สิ่งปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย คือว่า เมื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ไม่คำนึงว่าจะได้ใช้เป็นที่ประกอบธุรกิจอย่างอื่นอีกหรือไม่ จะเป็นส่วนประธานหรืออุปกรณ์ไม่ต้องคำนึงถึง และการเช่ารายนี้เป็นการเช่าเพื่อการค้า จึงไม่อยู่ในคลองของมาตรา ๑๖ โจทก์จึงฟ้องขับไล่ได้
พิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลย