แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยให้ลูกจ้างไปชำระค่าอากรเพื่อรับสินค้าต่อกรมศุลกากร และได้รับสินค้าไปแล้ว. แต่กรมศุลกากรไม่ได้รับชำระค่าอากรจำนวนนั้น. ถ้าลูกจ้างของจำเลยได้ชำระค่าอากรแล้ว. แต่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรเอาเงินนั้นไว้เอง ไม่ส่งให้แก่กรมศุลกากร.จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดชำระค่าอากรนั้น. แต่ถ้าลูกจ้างของจำเลยไม่ได้ชำระเงินนั้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร. แม้จะเป็นโดยเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรร่วมทุจริตด้วย. ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิด. เพราะจำเลยต้องรับผิดชอบในการกระทำของลูกจ้างซึ่งเป็นตัวแทนที่จำเลยใช้ในการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 220.
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้เรียกจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ขอให้เรียกจำเลยที่ 3 เข้าเป็นจำเลยร่วม โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 สั่งน้ำเชื้อโคคาโคล่าเข้ามาในประเทศไทย จำเลยที่ 1 มอบให้จำเลยที่ 2 จัดการรับสินค้านั้นแทนโดยนายชาลีและจำเลยที่ 3 เป็นผู้ดำเนินการ นายชาลีและจำเลยที่ 3ทำใบรับสินค้าปลอมยื่นรับสินค้าไป ขอให้จำเลยชำระเงินค่าอากรและและดอกเบี้ย จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ชำระค่าอากรแล้ว โดยจำเลยที่ 2 ทำการแทน จำเลยที่ 2 ให้การว่า ได้เป็นตัวแทนรับสินค้าแต่ได้ชำระค่าอากรตามระเบียบและรับสินค้ามาถูกต้องแล้ว จำเลยที่ 3 ให้การว่า ได้รับมอบจากจำเลยที่ 2 ไปรับสินค้าชำระค่าอากรแก่โจทก์และรับสินค้ามาโดยสุจริต ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยได้ชำระค่าอากรแก่โจทก์แล้วพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ยังไม่ได้ชำระค่าอากรราย 415,028.92 บาทพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมกับดอกเบี้ย โจทก์ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คนของจำเลยได้ชำระเงินค่าอากรต่อเจ้าหน้าที่ของโจทก์หรือไม่ ถ้าได้ชำระแล้ว แต่คนของโจทก์เอาเงินนั้นเสียไม่ส่งให้แก่โจทก์จำเลยไม่ต้องรับผิด แต่ถ้าคนของจำเลยไม่ได้ชำระเงินนั้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของโจทก์ จำเลยก็ไม่พ้นความรับผิดเพราะจำเลยต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวแทนที่จำเลยใช้ในการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 220 ไม่ว่าคนของโจทก์จะได้ร่วมในการทุจริต เช่นในการปลอมแปลงด้วยหรือไม่ และฟังว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระค่าอากรตามฟ้องโจทก์ พิพากษาแก้ให้ จำเลยที่ 1 ชำระค่าอากรและดอกเบี้ยตามฟ้องโจทก์.