แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่จำเลยเสียพนันและจับได้ว่าผู้เสียหายโกงจึงบังคับเรียกเอาเงินคืนจากผู้เสียหายโดยจำเลยเชื่อว่าตนมีสิทธิอันจะพึงมีพึงได้นั้นการกระทำของจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตจึงไม่เป็นชิงทรัพย์.
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน2514 ข้อ 14 ให้จำคุก 10 ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน 920 บาท แก่ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่โจทก์จำเลยนำสืบรับกันว่า คืนเกิดเหตุมีการเล่นไพ่รัมมี่พนันเอาทรัพย์สินกันที่บ้านจำเลย ซึ่งจำเลยนำสืบว่า ผู้เสียหายเล่นโกงโดยวิธีซ่อนไพ่จำเลยจึงเรียกเอาเงินที่เสียไปคืน ซึ่งในเรื่องนี้ผู้เสียหายเบิกความว่า หลังจากจำเลยให้พวกถือไพ่แทน เดินออกไปข้างนอกแล้วได้กลับมาขู่เอาเงินผู้เสียหายโดยว่า “ลื้อโกงอั๊ว อั๊วจับไม่ได้มาหลายครั้งแล้ว” นายเพิ่มศักดิ์ พยานโจทก์ที่เล่นการพนันไพ่ด้วยกันเบิกความถึงคำพูดของจำเลยว่า “มันจะเล่นโกงกันหรือเปล่า กูจับมาหลายหนแล้วเพิ่งจับได้วันนี้” ส่วนนายวันชาติ พยานโจทก์อีกคนหนึ่งเบิกความในเรื่องที่จำเลยต่อว่าผู้เสียหายว่า “มึงเล่นโกงกู”เจือสมกับที่จำเลยนำสืบ ดังนั้น การที่จำเลยขู่เอาเงินคืนจากผู้เสียหาย จึงฟังได้ว่า เพราะจำเลยจับได้ว่าผู้เสียหายเล่นโกงทำให้จำเลยเสียพนัน หากผู้เสียหายไม่โกงจำเลยอาจจะไม่ต้องเสียก็ได้ ที่จำเลยเรียกเอาเงินคืนจากผู้เสียหาย จึงเป็นการกระทำโดยจำเลยเชื่อว่าตนมีสิทธิอันจะพึงมีพึงได้เงินที่เสียพนันไปคืนเพราะผู้เสียหายเล่นโกง และเมื่อพิเคราะห์ถึงฐานะของจำเลยคืนมีบ้านให้เช่า ที่บ้านจำเลยก็เปิดค้าขายของเบ็ดเตล็ด และจำเลยยังประกอบอาชีพเป็นนายหน้าขายรถยนต์อีก ซึ่งพันตำรวจตรีชวลิต พนักงานสอบสวนก็ว่า จำเลยมีฐานะดี มีบ้านให้เช่า มีรถยนต์ใช้ย่อมไม่มีความจำเป็นที่จำเลยจะต้องไปชิงทรัพย์เพียง 920 บาทจากผู้เสียหายต่อหน้าผู้เล่นไพ่ด้วยกันเช่นนั้น แต่หากเป็นการเรียกเงินที่เสียไปโดยผู้เสียหายเล่นไพ่โกงคืนมาเท่านั้น ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยมีเจตนาทุจริตเพราะมีพวกมาร่วมกระทำผิดด้วยนั้น ก็ไม่มีพยานโจทก์คนใดเบิกความถึงเรื่องนี้ จึงรับฟังไม่ได้ ดังนั้นเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่มีเถยจิตเป็นโจรอันจะมีความผิดดังโจทก์ฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.