คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายโจทก์คนแรกได้ขอถอนตัวจากการเป็นทนายให้โจทก์ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2516 ต่อมาวันที่ 3 ธันวาคม 2516 โจทก์แต่งตั้งให้ ส.เป็นทนายคนใหม่ และในวันเดียวกันนั้น ส. ก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าติดว่าความที่ศาลจังหวัดนครปฐมซึ่งนัดไว้ก่อน ดังนี้การขอเลื่อนคดีของ ส.ทนายโจทก์เป็นการขอเลื่อนครั้งแรก และได้ยื่นคำร้องก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ว่า “หากทนายไม่ว่าง ให้รีบแถลงศาล” เหตุที่ขอเลื่อนก็เป็นเหตุสมควร ไม่ใช่เป็นการประวิงคดี ทั้งทนายจำเลยก็มิได้คัดค้านคำร้องขอเลื่อนคดีของโจทก์ จึงสมควรให้เลื่อนคดีไปได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาททั้งสองแปลง ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาท
จำเลยให้การว่า ที่ดินที่โจทก์ฟ้องเป็นที่ดินของบิดาจำเลย
ในวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาล โดยทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไว้ก่อน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดี และสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในวันเดียวกันนั้น
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานคู่ความต่อไปตามรูปคดี แล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ปรากฏว่าทนายโจทก์คนแรกคือนายคำนวณ วงษ์ถนอม ได้ยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความให้โจทก์ในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๖ ต่อมาวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๑๖ โจทก์จึงยื่นใบแต่งทนายความเข้ามาใหม่ แต่งตั้งให้นายสมบัติ นิลจินดา เป็นทนายความและในวันเดียวกันนั้นเอง นายสมบัติทนายโจทก์คนใหม่ก็ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าทนายโจทก์ติดว่าความที่ศาลจังหวัดนครปฐมซึ่งได้นัดไว้ก่อน ศาลฎีกาเห็นว่านายสมบัติเพิ่งได้รับแต่งตั้งจากตัวโจทก์ให้เข้าเป็นทนายความให้แก่โจทก์ การยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายความผู้นี้จึงเป็นการขอเลื่อนครั้งแรก และได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนก่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ว่า “หากทนายไม่ว่าง ให้รีบแถลงศาล” เหตุที่ขอเลื่อน ศาลฎีกาก็เห็นว่าเป็นเหตุผลอันสมควร ไม่ใช่เป็นการประวิงคดีของทนายความผู้นี้ ทั้งการขอเลื่อนคดีคราวนี้ทนายจำเลยก็มิได้คัดค้านคำร้องขอเลื่อนคดีของโจทก์แต่ประการใด จึงสมควรอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไปได้
พิพากษายืน.

Share