แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ไว้แล้วในชั้นร้องขออุทธรณ์คดีอย่างคนอนาถาดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องขออุทธรณ์คดีอย่างคนอนาถาของจำเลยแล้วจำเลยนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตลอดจนค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะสั่งให้รับเงินและรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้วดำเนินการออกหมายนัดแจ้งให้โจทก์ทราบกับกำหนดให้โจทก์แก้อุทธรณ์ของจำเลยภายใน15วันนับแต่วันที่ได้รับหมายนัดไม่มีเหตุที่จะต้องสั่งให้จำเลยส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ซ้ำอีกดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ภายใน5วันจึงเป็นการผิดหลงและเป็นเหตุให้จำเลยสำคัญผิดว่าการที่จำเลยได้ส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ไว้ดังกล่าวแล้วในตอนต้นเป็นการที่จำเลยได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นแล้วไม่จำต้องปฏิบัติซ้ำอีกดังนี้จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีในการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้น
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ และยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ต่อมาจำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย สำเนาให้โจทก์ ให้จำเลยนำส่งภายใน 5 วัน ไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด หากส่งไม่ได้ให้จำเลยแถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วัน นับแต่วันส่งไม่ได้ หากไม่แถลงให้ถือว่าทิ้งอุทธรณ์ พ้นกำหนดแล้วจำเลยไม่ได้นำส่งศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ไว้แล้วเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2537 ในชั้นร้องขออุทธรณ์คดีอย่างคนอนาถาตามรายงานการส่งหมายในสำนวนศาลลำดับที่ 54ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องขออุทธรณ์คดีอย่างคนอนาถาของจำเลยแล้ว จำเลยนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตลอดจนค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลในวันที่ 11 กรกฎาคม 2537 ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะสั่งให้รับเงินและรับอุทธรณ์ของจำเลยไว้ แล้วดำเนินการออกหมายนัดแจ้งให้โจทก์ทราบกับกำหนดให้โจทก์แก้อุทธรณ์ของจำเลยภายใน15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหมายนัด ไม่มีเหตุที่จะต้องสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ซ้ำอีก ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ภายใน 5 วัน จึงเป็นการผิดหลงและเป็นเหตุให้จำเลยสำคัญผิดว่าการที่จำเลยได้ส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ไว้ดังกล่าวแล้วในตอนต้นเป็นการที่จำเลยได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นแล้วไม่จำต้องปฏิบัติซ้ำอีก ดังนี้จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีในการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้น
พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์และแก้คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่จำเลยภายใน 5 วัน นั้นเสีย เป็นให้จำเลยนำส่งหมายนัดแจ้งการรับอุทธรณ์กับกำหนดเวลาให้โจทก์แก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับหมายนัดดังกล่าวแก่โจทก์ภายใน 5 วัน นับแต่วันฟัง คำพิพากษานี้ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น