คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันทำสัญญาจ้างโจทก์ทำป้ายโฆษณา โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงนามรับผิดในสัญญา ขอให้ร่วมกันรับผิดเมื่อปรากฎว่าจำเลยที่ 2 ว่าจ้างในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ก็เท่ากับจำเลยที่ 1 เป็นผู้จ้าง จะให้จำเลยที่ 2 รับผิดร่วมด้วยไม่ได้ แม้จะได้ตกลงกำหนดประเด็นนำสืบกันเพียงข้อเดียวว่าทำสัญญาจ้างทำป้ายกันกี่ป้ายก็ดี ก็หาเป็นเหตุให้ไม่ต้องวินิจฉัยความรับผิดตามกฎหมายด้วยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นลูกจ้างและตัวแทนของจำเลยที่ ๑ ร่วมกันทำสัญญาซื้อและจ่ายค่าแรงเหมาให้โจทก์ติดตั้งแผงป้ายโฆษณาด้วยไฟนีออนมีชื่อบริษัทจำเลยที่ ๑ โดยยอมจ่ายเงินให้โจทก์ ๑๐,๐๐๐ บาท โดยมีจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ลงนามรับผิดในสัญญา แล้วจำเลยไม่ยอมจ่ายเงินให้โจทก์ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยที่ ๑ และ ๒ ปฏิเสธ
ชั้นพิจารณา โจทก์จำเลยตกลงกันว่า “ประเด็นข้อโต้เถียงคงมีเพียงว่าการจ้างทำป้ายนั้น จำเลยได้ทำสัญญา ๒ ฉบับสำหรับป้าย ๒ อันให้แก่โจทก์ หรือว่าทำสัญญาฉบับเดียวตามจำเลยอ้างว่าได้ทำสัญญา ๒ ฉบับสำหรับป้ายอันเดียว ฉบับแรกทำจริงแต่ได้ยกเลิกกันแล้ว จึงมาทำสัญญาใหม่ฉบับที่ ๒”
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทให้โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยจ้างทำป้าย ๒ อันจริง จำเลยที่ ๑ จ่ายเงินยังไม่ครบ โดยจ่ายแต่เพีงค่าป้ายอันที่ ๒ อันเดียว จำเลยที่ ๑ จึงต้องชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ แต่เรื่องนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๒ เป็นตัวแทนในการว่าจ้างโจทก์ทำป้าย และจำเลยที่ ๑ มิได้ลงชื่อในสัญญาจ้างซึ่งจะอ้างได้ว่าเป็นลูกหนี้ร่วมกัน คงมีชื่อจำเลยที่ ๒ เป็นคู่สัญญาว่าจ้างโจทก์ เมื่อจำเลยที่ ๒ ว่าจ้างในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยที่ ๑ ก็เท่ากับจำเลยที่ ๑ เป็นผู้จ้าง จะให้จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นตัวแทนรับผิดด้วยไม่ได้ แม้จะได้ตกลงกำหนดประเด็นนำสืบไว้ข้อเดียว ก็หาเป็นเหตุให้ไมต้องวินิจฉัยความรับผิดตามกฎหมายด้วยไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยที่ ๒ ร่วมชำระหนี้ให้โจทก์ด้วยนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นศาลฎีกา
จึงพิพากษาแก้ ให้จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวชำระเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทให้โจทก์

Share