คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเช่าซื้อรถจักรยานมา ยังชำระราคาค่าเช่าซื้อยังไม่หมด จำเลยได้นำรถจักรยานนั้นไปออกรางวัลสลากกินรวม โดยผู้ให้เช่าซื้อไม่ได้รู้เห็นด้วย ดังนี้ กรรมสิทธิ์ในรถจักรยานยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 ผู้ให้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิร้องขอรับรถจักรยานของกลาง คืนไปได้

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันและริบจักรยาน ๒ ล้อ ของกลางที่จำเลยใช้ออกเป็นรางวัลสลากกินรวบ คดีถึงที่สุด ศาลชั้นต้น
ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า รถจักรยานของกลางไม่ใช่ของจำเลย หากเป็นรถของผู้ร้องได้ให้จำเลยเช่าซื้อมา จำเลยชำระราคายังไม่หมด การที่จำเลยเอารถจักรยานคันนี้ไปจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวม ผู้ร้องมิได้รู้เห็น จึงขอให้ศาลสั่งคืนของกลางแก่ผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยได้เช่าซื้อรถจักรยานของกลางมาจากผู้ร้อง และในระหว่างที่จำเลยชำระราคาเช่าซื้อยังไม่ครบถ้วน โดยชำระแล้ว ๙๒๐ บาท คงค้างอยู่ ๖๓๐ บาท ก็เกิดคดีขึ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๕๗๒ ถือว่า จักรยานของกลางยังเป็นของผู้ร้องอยู่ หาใช่ตกเป็นของจำเลยไม่ พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ให้คืนจักรยานของกลางให้แก่ผู้ร้องไป
ผู้ว่าคดีโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รถจักรยานนี้ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องอยู่ หาใช่ของจำเลยผู้เช่าซื้อไม่ เพราะจำเลยยังชำระราคาไม่ครบถ้วนในขณะทำผิดคดีนี้เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้รู้เห็นในการกระทำผิดร่วมกับจำเลย ก็ชอบที่จะสั่งคืนรถรายนี้ให้แก่ผู้ร้อง
พิพากษายืน

Share