แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีที่คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาบังคับเกี่ยวถึงตัวจำเลยอื่น ศาลชั้นต้นต้องอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยผู้ที่มีคำบังคับเกี่ยวถึงนั้นฟังทุกคน
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษนายติด นางหลุ่นจำเลยตาม พ.ร.บ.การพะนัน พ.ศ.๒๔๗๘ ให้ปรับจำเลยทั้ง ๒ ส่วนคนอื่น ๆ ให้ปล่อยตัวไป ชั้นศาลอุทธรณ์ ๆ เห็นว่าจำเลยอื่นอีก ๕ คนมีความผิดด้วย จึงพิพากษาให้ปรับ ๓๐ บาท กับให้จำเลยทุกคนช่วยกันใช้ค่านำจับ ๑ ใน ๔ ของจำนวนค่าปรับให้แก่ผู้นำจับ นอกนั้นพิพากษายืน
ปรากฎว่าศาลชั้นต้นไม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้นายติดนายหลุ่น นายอาดฟรายงานพิจารณาว่าไม่ได้ส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้นายติด นางหลุ่นจำเลยจึงไม่ถือว่าจำเลยทั้ง ๒ นี้อยู่ในฐานะเป็นจำเลยชั้นอุทธรณ์และนายอาดนั้นศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและโจทก์ไม่ติดใจอุทธรณ์ จึงไม่เรียกตัวจำเลยทั้ง ๓ คนมาฟังคำพิพากษา
ศาลฎีกาชี้ขาดว่าเมื่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มีการบังคับเกี่ยวถึงนายอาด นายติด นางหลุ่นด้วย ศาลชั้นต้น ไม่มีอำนาจงดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้ง ๓ ฟัง จึงส่งสำนวนคืนมาให้ศาลชั้นต้นจัดการอ่านคำพิพากษาให้ถูกต้องแล้วจัดการต่อไปตามกระบวนความ