แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 267, 91 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 137 ให้ยกฟ้องข้อหาตามมาตรา 267 โจทก์อุทธรณ์ ส่วนโจทก์ร่วมมิได้อุทธรณ์ สิทธิอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมในข้อหาตามมาตรา 267 จึงยุติ เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของโจทก์ในข้อหาตามมาตรา 267 เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ โจทก์ร่วมจึงไม่มีสิทธิที่จะฎีกาว่าอุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายต่อไปอีกได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗, ๒๖๗, ๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น นางพรสมัย วานิชชัง ผู้เสียหายร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗ จำคุก ๓ เดือน กรณีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒ เดือน คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของโจทก์ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗ เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามอุทธรณ์ และข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗ ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ร่วมฎีกาว่า อุทธรณ์ของโจทก์ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗ นั้น เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย หาใช่เป็นปัญหาข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ชอบ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗ แต่ให้ยกฟ้องเฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗ แล้วนั้น โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ ส่วนโจทก์ร่วมมิได้ยื่นอุทธรณ์ตามสิทธิที่โจทก์ร่วมมีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การที่โจทก์ร่วมมิได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ตามบทกฏหมายดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมมีความพอใจในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้ว สิทธิของโจทก์ร่วมในการอุทธรณ์ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๗ จึงเป็นยุติ ดังนั้น โจทก์ร่วมจึงไม่มีสิทธิที่จะฎีกาว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายต่อไปอีกได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ร่วมในปัญหาดังกล่าว และวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น