แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเป็นเวลาเกินกว่าสิบปีและการครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นนั้นหามีกฎหมายบัญญัติว่าผู้ครอบครองจำต้องรู้ว่าทรัพย์สินที่ครอบครองนั้นเป็นของผู้อื่นหรือมิใช่ทรัพย์ของตนแต่อย่างใดไม่โจทก์จึงได้กรรมสิทธิในที่พิพาทด้วยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า เดิม นางสาว พันและนางสาวผิว เป็น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2526 โดย รับมรดก มาจาก นาย ปลื้ม เมื่อ ปี 2491บุคคล ทั้ง สอง ได้ ครอบครอง ทำนา ต่อมา นางสาว พัน ถึงแก่กรรม นางสาว ผิว ได้ จดทะเบียน รับโอน มรดก ที่ดิน ส่วน ของ นางสาว พัน เป็น ของ ตน เมื่อ ปี 2522 โจทก์ กับ สามี ช่วย นางสาว ผิว ทำนา ตลอดมา จน ปี 2524 นางสาว ผิว ได้ จดทะเบียน โอน กรรมสิทธิ์ ที่ดิน แปลง นี้ ให้ โจทก์ โจทก์ ได้ ครอบครอง มา จน บัดนี้ ต่อมา ระหว่าง ปี 2531-2533 ทางราชการรังวัด ตรวจสอบ ที่ดิน เพื่อ จะ สร้าง ถนน จึง ปรากฏว่า ที่ดิน ที่ โจทก์ครอบครอง นั้น ด้าน ทิศเหนือ มี ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2529 เนื้อที่ 3 งาน60 ตารางวา มี ชื่อ นาย เฉย และนางให ซึ่ง ถึงแก่กรรม นาน มา แล้ว เป็น เจ้าของ แต่ นางสาว พัน นางสาวผิว และ โจทก์ ได้ ครอบครอง ที่ดิน โฉนด ดังกล่าว ไว้ โดย ความสงบ และ โดย เปิดเผย ด้วย เจตนา เป็น เจ้าของ สืบต่อ กัน มาเป็น เวลา ไม่ น้อยกว่า 40 ปี แล้ว ที่ดิน โฉนด ดังกล่าว ตกเป็น ของ โจทก์ด้วย การ ครอบครอง ตาม กฎหมาย จำเลย ที่ 1 เป็น บุตร นาง ให และ เป็น หลาน นาย เฉย ได้ ทราบ ข้อเท็จจริง ดังกล่าว ดี ว่า โจทก์ ได้ ครอบครอง ทำประโยชน์ ที่ดิน ได้ ยื่น คำร้องขอ ต่อ ศาลชั้นต้น ขอเป็นผู้จัดการมรดกนาย เฉยและนางให แล้ว จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 ได้ จดทะเบียน โอน ขาย ที่ดิน ส่วน ของ ตน ให้ แก่ จำเลย ที่ 4 ซึ่ง เป็น สามี จำเลย ที่ 3โดย ไม่สุจริต ขอให้ พิพากษา ว่า ที่พิพาท โฉนด เลขที่ 2429 เป็น ของ โจทก์ให้ จำเลย ส่งมอบ ใบแทน โฉนด แก่ โจทก์
จำเลย ทั้ง สี่ ให้การ ว่า โจทก์ จะซื้อ ที่พิพาท โฉนด เลขที่ 2429 ของนาง ให ผู้ตาย จำเลย ที่ 1 กับ ทายาท นาง ให ทุกคน ตกลง ขาย และ ตกลง กับ โจทก์ ว่า จะ ไป ขอรับ มรดก นาง ให เสีย ก่อน ส่วน ราคา ที่ จะซื้อขาย ให้ คิด กัน ตาม ราคา ใน ขณะ จดทะเบียน โอน เมื่อ ตกลง กัน แล้ว จำเลย ที่ 1ให้ โจทก์ ครอบครอง ที่พิพาท ก่อน ร้องขอ เป็น ผู้จัดการมรดก นาง ให จำเลย ที่ 1 ก็ บอก โจทก์ ให้ เตรียม เงิน ค่าซื้อ ที่พิพาท ไว้ หลัง ได้รับแต่งตั้ง เป็น ผู้จัดการมรดก แล้ว จำเลย ที่ 1 ก็ บอก ให้ โจทก์ ซื้อ ที่พิพาทแต่ โจทก์ เห็นว่า ที่พิพาท มี ราคา สูง ขึ้น จึง ไม่ยอม ซื้อ จำเลย ที่ 1ที่ 2 และ ที่ 3 จดทะเบียน รับโอน มรดก ที่พิพาท โดยสุจริต จำเลย ที่ 4ก็ ซื้อ ที่พิพาท เฉพาะ ส่วน ที่ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 ไว้ โดยสุจริตขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า ที่ดิน โฉนด เลขที่ 2429 เป็น กรรมสิทธิ์ของ โจทก์ โดย การ ครอบครอง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382ให้ เพิกถอน รายการ จดทะเบียน รับโอน มรดก และ รายการ จดทะเบียน โอน ขายที่พิพาท ที่ เกี่ยวกับ จำเลย ทั้ง สี่ ให้ จำเลย ทั้ง สี่ ส่งมอบ ใบแทน โฉนดที่ดินพิพาท แก่ โจทก์
จำเลย ทั้ง สี่ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สี่ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า โจทก์ ได้ ครอบครอง ที่พิพาท ไว้ โดย ความสงบและ โดย เปิดเผย ด้วย เจตนา เป็น เจ้าของ ติดต่อ กัน มา เป็น เวลา เกินกว่าสิบ ปี และ การ ครอบครอง ทรัพย์สิน ของ ผู้อื่น นั้น หา มี กฎหมายได้ บัญญัติ ว่า ผู้ครอบครอง จำต้อง รู้ ว่า ทรัพย์สิน ที่ ครอบครอง นั้นเป็น ของ ผู้อื่น หรือ มิใช่ ทรัพย์ ของ ตน แต่อย่างใด ไม่ โจทก์ จึง ได้กรรมสิทธิ์ ใน ที่พิพาท ด้วย การ ครอบครอง
พิพากษาแก้ เป็น ว่า สำหรับ คำขอ ให้ จำเลย ทั้ง สี่ ส่งมอบใบแทน โฉนด ที่ดินพิพาท แก่ โจทก์ ให้ยก