คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 0-0/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินที่สาธารณกลายสภาพวิธีพิจารณาความแพ่งหน้าที่นำสืบคลองสาธารณตื้นเขินขึ้นและรัฐบาลขายให้แก่เอกชนแล้วไม่นับว่าเป็นสาธารณสมบัติต่อไปเจ้าของที่ดินต่ำจำต้องรับน้ำ+ไหลตามธรรมดาจากที่สูงมายังที่ของตน แต่ไม่จำเป็นต้องรับน้ำที่ใช้แล้วระบายทิ้งเจ้าของที่ดินทำท่อระบายน้ำผ่านที่ดินของผู้อื่นมานาน แต่ไม่ได้นำสืบว่าการระบายน้ำเช่นนั้นเป็นประโยชน์แก่สังหาริมทรัพย์ของตนแล้วจะอ้างภาระจำยอมไม่ได้+ให้เขาก่อตึกของตน+ที่คนอื่น ในการก่อสร้างนั้นรับจ้างทำให้ตึกของเจ้าของแตกร้าว ผู้ว่าจ้างต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้แก่เขาลักษณพะยานชำนาญการพิเศษ+หนักคำพะยาน พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.+ ม.4 คดีฟ้องเดิมทุนทรัพย์เกินกว่าสองพันบาทฎีกาข้อเท็จจริงได้ ส่วนคดีฟ้องแย้งซึ่งมีทุนทรัพย์ไม่ถึงสองพันบาทฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์จำเลยต่างฟ้องแย้งกันได้ความว่า ที่โจทก์จำเลยอยู่ติดต่อกัน ที่ของจำเลยแต่เดิมเป็นคลองแล้วตื้นเขินขึ้น จำเลยซื้อจากรัฐบาล แล้วมีข้อพิพาทกัน ๓ ข้อ คือ ๑. จำเลยปลูกตึกรุกเข้าไปในที่ของโจทก์ แล้วกำแพงตึกของโจทก์แตกร้าวจะต้องเสียหายค่าซ่อมแซม ๒๐๐๐ บาท โจทก์มีพะยานผู้ชำนาญการพิเศษมาเบิกความว่า เหตุที่กำแพงแตกนั้นโดยพื้นดินหลวมตัวหรือเพราะว่าความกะเทือนหรือทั้งสองประการเนื่องจากจำเลยทำรากตึกใกล้ชิดกับกำแพงที่ร้าว ๒. ชายคาตึกของโจทก์รุกล้ำเข้ามาในที่ของจำเลย ๒๐ ปี เศษแล้ว ๓. โจทก์ทำท่อระบายน้ำและวัตถุอื่นไหลผ่านที่ดินของจำเลยมานานแล้ว จำเลยจึงฟ้องแย้งตามข้อ ๒-๓ สำหรับในข้อ ๒ จำเลยตีราคาที่ดินแลเรียกค่าเสียหายรวมกันไม่ถึง ๒๐๐๐ บาท
ศาลเดิมพิพากษาในข้อ ๑ ว่า จำเลยเถียงว่าจ้างช่างก่อสร้างนั้น เห็นว่าเป็นการทำในที่ของโจทก์ จำเลยต้องรับผิดชอบ จึงให้โจทก์ชนะคดี ในข้อ ๒.พิพากษาว่าหลังคาโจทก์รุกล้ำมาตั้ง ๒๐ ปีแล้ว จำเลยหมดสิทธิขับไล่ขอให้รื้อหลังคา แต่โจทก์ไม่ได้ปกครองที่ดินใต้ชายคา จะถือเอาที่ดินในเขตต์ชายน้ำตกไม่ได้ ในข้อ ๓.พิพากษาว่าตามปกติน้ำต้องไหลจากที่สูงไปหาที่ต่ำ จำเลยจึงฟ้องขอห้ามโจทก์ไม่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาในข้อ ๑ แลข้อ ๒ ยืนตามศาลเดิม (ในส่วนข้อ ๑ นั้นจำเลยยกข้อมัดความผิดให้ผู้รับก่อสร้างขึ้นคัดค้าน) ส่วนในข้อ ๓ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำวินิจฉัยของศาลเดิมใช้สำหรับน้ำไหลตามธรรมดา ไม่หมายถึงน้ำใช้แล้วระบายทิ้งตามท่อเช่นเรื่องนี้ ข้อที่โจทก์อ้างว่าระบายน้ำลงคลองสาธารณฟังไม่ขึ้นเพราะคลองนี้ตื้นรัฐบาลขายให้จำเลยแล้ว จึงพิพากษาให้โจทก์แพ้คดีแลใช้ค่าเสียหายให้จำเลย
ศาลฎีกาพิพากษาข้อ ๑ ยืนตามศาลล่าง ในข้อ ๒ ว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีทุนทรัพย์ไม่ถึงสองพันบาท ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ในข้อ ๓. ว่าที่ดินเป็นของจำเลยไม่เป็นคลองสาธารณแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิระบายน้ำหรือวัตถุใด ๆ ไหลเข้าที่ดินของจำเลยอนึ่งท่อน้ำนี้ไม่ใช่ท่อน้ำตามธรรมดา โจทก์ไม่นำสืบว่าการระบายเช่นนั้นเป็นประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์ของโจทก์อย่างใดฉะนั้นโจทก์จึงอ้างว่าเป็นภาระจำยอมไม่ได้และน้ำที่ระบายไม่ใช่น้ำไหลตามธรรมดาตามประมวลแพ่งฯ ม.๑๓๓๙ ดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้แล้ว จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share