คำสั่งคำร้องที่ 960/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านศาลชั้นต้นจึงสั่งใหม่เป็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่ การที่ศาลสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2จึงเป็นการสั่งโดยผิดหลง จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่สั่งรับฎีกาจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 และสั่งใหม่เป็นไม่รับฎีกาจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 เห็นว่า ผลของการที่โจทก์ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลมีแต่เพียงให้สัญญาจะซื้อจะขายเป็นโมฆะเท่านั้นจึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็น ราคาเงินได้ จำเลยที่ 2 จึงยื่นฎีกาได้ทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณา พิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า ให้เพิกถอนสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 816 เลขที่ดิน 36 ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายางจังหวัดเพชรบุรีลงวันที่ 8 ธันวาคม 2532ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 81,88)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 92)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1480 โดยโจทก์มิได้มีคำขอเกี่ยวกับทรัพย์สินตามสัญญา นั้นมาเป็นของโจทก์แต่อย่างใด จึงเป็นคดีที่พิพาทกันด้วย นิติกรรมที่ทำขึ้น อันเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้ไม่ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248วรรคสอง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share