แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยข้อ 2.1 แม้จะเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย แต่ก็เป็น ปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ต้องห้ามตามมาตรา 225 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ประกอบกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 สำหรับอุทธรณ์ข้อ 2.2,2.3 และ 2.4 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามมาตรา 54 แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน จึงไม่รับอุทธรณ์ทุกข้อของจำเลย
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยข้อ 2.1 เป็นปัญหาข้อกฎหมาย อันเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย สำหรับอุทธรณ์ ข้อ 2.3 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายอันควรรับไว้ส่วนอุทธรณ์ ข้อ 2.2 และ 2.4 เป็นอุทธรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับอุทธรณ์ใน ข้อ 2.1 และ 2.3 ควรที่ศาลฎีกาจะรับไว้พิจารณาเช่นเดียวกัน โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 41)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระสินจ้างแทนการบอกกล่าว ล่วงหน้าจำนวน 6,900 บาท และค่าชดเชยจำนวน 9,000 บาท แก่โจทก์ ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ (อันดับ 33)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 37)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อ เป็นอุทธรณ์ โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง ที่ฟังว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์โดยไม่ได้จงใจทำให้จำเลย ได้รับความเสียหาย เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ที่ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ ของจำเลย ศาลฎีกาเห็นฟ้องด้วยในผล ให้ยกคำร้อง