คำสั่งคำร้องที่ 1233/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ ข้อ 3(1) และ (2) เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ส่วนอุทธรณ์ข้อ 3(3) นั้น ปรากฏว่าการกระทำของโจทก์ตามคำให้การจำเลยลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2534 ข้อ (2) และข้อ (3) หาได้เข้าข้อยกเว้นที่นายจ้างจะไล่ออก โดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือให้สินไหมทดแทนไม่ อุทธรณ์ข้อนี้ จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันสมควรได้รับการวินิจฉัย จึงไม่รับอุทธรณ์ ทุกข้อของจำเลย
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย และเป็นข้อกฎหมายที่เป็นสาระแก่คดี เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ของประชาชน โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้ พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 64)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าว ล่วงหน้า จำนวน 95,000 บาท ให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์(อันดับ 35,36)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 38)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มิได้ เป็นลูกจ้างทดลองงานของจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยมิได้ บอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าตามกฎหมายโจทก์จึงมีสิทธิได้รับสินจ้าง แทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จำเลยอุทธรณ์ในข้อ 3(1)(2) สรุปได้ใจความว่า โจทก์เป็นลูกจ้างทดลองงานของจำเลย เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของ ศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ส่วนอุทธรณ์ข้อ 3(3) ของจำเลยที่อุทธรณ์ว่า ศาลแรงงานกลางตัดประเด็นตามคำให้การข้อ 1(2)(3) ของจำเลย ที่สรุปได้ใจความว่า แม้ศาลแรงงานกลางจะฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มิได้เป็นลูกจ้างทดลองงานแต่โจทก์ก็ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ และไม่มีผลงาน โจทก์กระด้างกระเดื่องต่อจำเลยซึ่งเป็นนายจ้าง นั้น ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา เพราะหากให้จำเลยนำสืบได้ตามคำให้การดังกล่าว ก็จะทำให้จำเลยชนะคดีโจทก์ได้นั้น เห็นว่าแม้จำเลย จะนำสืบได้เช่นนั้น ก็ไม่เข้าข้อยกเว้นที่จำเลยจะเลิกจ้าง โจทก์ได้โดยมิ พักต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือจ่ายสินไหมทดแทน แก่โจทก์ อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดี ที่ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยมานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share