คำสั่งคำร้องที่ 941/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15จะมีผลผูกพันให้ผู้ขอต้องดำเนินกระบวนพิจารณาภายในกำหนดเวลาที่ขยาย ก็ต่อเมื่อผู้ขอได้ทราบคำสั่งนั้นก่อนสิ้นกำหนดเวลาที่ขยายออกไป เมื่อกำหนดเวลายื่นฎีกาที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายออกไปสิ้นสุดในวันที่ 30 ธันวาคม 2537 แต่จำเลยทราบคำสั่งในวันที่11 มกราคม 2538 อันเป็นเวลาภายหลังสิ้นกำหนดยื่นฎีกาแล้วจำเลยจึงไม่ต้องผูกพันต้องยื่นฎีกาภายในเวลาที่ขยาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงต้องถือว่าระยะเวลาที่ขยายเริ่มนับตั้งแต่วันที่จำเลยทราบคำสั่ง เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายเวลายื่นฎีกาออกไปอีก 20 วัน ระยะเวลาฎีกาจึงสิ้นสุดลงในวันที่31 มกราคม 2538 จำเลยยื่นฎีกาวันที่ 27 มกราคม 2538จึงไม่พ้นกำหนด

ย่อยาว

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยที่ 2 ยื่นฎีกาพ้น กำหนดระยะเวลาที่อนุญาตให้ขยาย ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 เห็นว่า จำเลยที่ 2 ได้เซ็นทราบคำสั่งศาลที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกา 20 วัน จากเจ้าหน้าที่ที่เรือนจำเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2538 จำเลยที่ 2 เข้าใจว่าระยะเวลาที่ศาลอนุญาตให้ขยายนั้นให้นับต่อจากวันที่จำเลยที่ 2ทราบคำสั่งศาล ดังนั้นวันสุดท้ายที่จะยื่นฎีกาได้คือวันที่30 มกราคม 2534 เมื่อจำเลยที่ 2 ยื่นฎีกาในวันที่27 มกราคม 2538 จึงยังไม่พ้นกำหนด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง,102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและจำเลยที่ 3ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบด้วย มาตรา 52(1) คงจำคุกจำเลยทั้งสามตลอดชีวิต ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา (อันดับ 81)
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 85 แผ่นที่ 2)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 87)

คำสั่ง
วันที่ 3 เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2538
การขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15จะมีผลผูกพันให้ผู้ขอต้องดำเนินกระบวนพิจารณาภายในกำหนดเวลาที่ขยาย เมื่อผู้ขอได้ทราบคำสั่งนั้นก่อนสิ้นกำหนดเวลาที่ขยายออกไป
เมื่อกำหนดเวลายื่นฎีกาที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายออกไปสิ้นสุดในวันที่ 30 ธันวาคม 2537 แต่จำเลยที่ 2 ทราบคำสั่งในวันที่ 11 มกราคม 2538 อันเป็นเวลาภายหลังสิ้นกำหนดยื่นฎีกาแล้วจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องผูกพันต้องยื่นฎีกาภายในเวลาที่ขยายเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงต้องถือว่าระยะเวลาที่ขยายเริ่มนับตั้งแต่วันที่จำเลยที่ 2 ทราบคำสั่ง เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายเวลายื่นฎีกาออกไปอีก 20 วัน ระยะเวลาฎีกาจึงสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มกราคม 2537 จำเลยที่ 2 ยื่นฎีกาวันที่27 มกราคม 2538 จึงยังไม่พ้นกำหนด ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 จึงไม่ชอบ ให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้ และให้ดำเนินการต่อไป

Share