แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย จำเลยจึงฎีกาไม่ได้ ไม่รับฎีกา
จำเลยทั้งสามเห็นว่า จำเลยทั้งสามไม่สามารถหาเงินมาเสียค่าธรรมเนียมศาลได้เพราะเป็นเงินจำนวนมาก และจำเลยก็ไม่มีญาติหรือผู้ใดที่จะให้ยืมเงินหรือให้ความช่วยเหลือได้ จึงเห็นได้ว่าจำเลยเป็นคนยากจนจริง อีกทั้งข้อเท็จจริงในคดีนี้หากได้รับการวินิจฉัยจากศาลอุทธรณ์แล้ว จำเลยทั้งสามจะต้องชนะคดีโจทก์อย่างแน่นอน การที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องฎีกาคำสั่งเพื่อขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา จึงเป็นการตัดสิทธิและโอกาสของจำเลยอย่างสิ้นเชิงโปรดกลับคำสั่งศาลชั้นต้นโดยสั่งให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาเพื่อให้ศาลฎีกาพิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว โดยวิธีปิดหมาย(อันดับ 225 แผ่นที่ 2)
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 4
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ร่วมกันชำระเงิน 519,012.71 บาท(เพราะโจทก์รับเงินไปจากจำเลยที่ 4 แล้ว 214,800 บาท วันที่8 มิถุนายน 2525) หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระให้โจทก์แล้ว ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 519,012.71 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ
จำเลยที่ 1 กับที่ 2 และจำเลยที่ 3 ต่างอุทธรณ์ และต่างยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถากับคำร้องขอทุเลาการบังคับ
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามเสีย ฯลฯ
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า เห็นว่าตามทางไต่สวนข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 เป็นคนยากจนจนถึงกับว่าไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 หากจำเลยยังติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้
ปรากฏจากรายงานเจ้าหน้าที่ว่า จำเลยทั้งสามมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์และคำร้องขอทุเลาการบังคับของจำเลยทั้งสาม (อันดับ 221)
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 222)
จำเลยทั้งสามจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 224)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสามอุทธรณ์อย่างคนอนาถา คำสั่งศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้ายจำเลยทั้งสามจะยื่นฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นไม่รับคำร้องฎีกาคำสั่งชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง