แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งการฟังข้อเท็จจริงของศาลตามเอกสารหมาย ล.1ว่าควรรับฟังประกอบหลักฐานอื่น ๆ เป็นอย่างอื่น เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 54แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลแรงงานกลางตีความเอกสารหมาย ล.1 ด้วยการแปลข้อความคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 47)ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์เป็นเงิน 31,200 บาท
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 42)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 47)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงได้ความเป็นยุติว่า ตามคำสั่งของจำเลยเอกสารหมาย ล.1 จำเลยมิได้ระบุว่าให้โจทก์ทำสายนาฬิกาจำนวนเท่าใดไว้จำเลยอุทธรณ์ว่าเมื่อพิจารณาข้อความซึ่งเป็นภาษาอังกฤษในคำสั่งเอกสารหมาย ล.1 ประกอบกับคำเบิกความของพยานจำเลยแล้ว เห็นได้ชัดว่าจำเลยสั่งให้โจทก์ทำสายนาฬิกาเพื่อเป็นตัวอย่างเพียง 1 สาย การที่โจทก์ทำสายนาฬิกาถึง 4 สายจึงเป็นการฝ่าฝืนต่อคำสั่งของจำเลยนั้นเป็นกรณีที่จำเลยโต้เถียงถึงเจตนาและวัตถุประสงค์ในการออกคำสั่งดังกล่าวของจำเลยซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่เป็นการแปลข้อความในเอกสาร ซึ่งจะถือว่าเป็นข้อกฎหมาย อุทธรณ์ของจำเลยจึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว ยกคำร้อง