แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นปัญหา ข้อกฎหมาย โดยฎีกาข้อ 2.1 เป็นปัญหาว่า สัญญาระหว่างโจทก์ จำเลยเป็นสัญญาเช่าธรรมดาหรือสัญญาต่างตอบแทนข้อ 2.2 เป็น ปัญหาว่า การบอกเลิกสัญญาเช่าตามฟ้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และข้อ 3 เป็นปัญหาว่า สัญญาเช่าที่ดินตามฟ้องระหว่างโจทก์ กับโจทก์ร่วมเป็นกลฉ้อฉลหรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของจำเลยทั้งสองด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองและบริวารออกไปจาก ที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ 656 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมทั้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน แปลงดังกล่าว ไปให้หมดและส่งมอบคืนแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยห้ามมิให้จำเลยทั้งสองยุ่งเกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้ต่อไป และให้จำเลย ทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวนเดือนละ 500 บาท นับแต่เดือนกรกฎาคม 2529 เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยทั้งสองจะออกไปจาก ที่ดินแปลงนี้และส่งมอบคืนแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อย ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์และจำเลยทั้งสอง
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 265)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 270)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย เพราะเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 และมาตรา 225 จำเลยจึงฎีกาคัดค้าน คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ได้ ให้รับฎีกาของจำเลย