คำสั่งคำร้องที่ 856/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าศาลชั้นต้นยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน คดีถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย ต้องห้ามฎีกา จึงไม่รับ โจทก์ทั้งสามเห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอ ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของโจทก์ทั้งสามเพราะคดีโจทก์ไม่มีมูล ที่จะชนะคดีนั้น เป็นคำสั่งในปัญหาข้อกฎหมายเมื่อศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืนในข้อนี้คดีโจทก์จึงยังไม่ถึงที่สุด เพราะ คำสั่งยืนของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่ถึงที่สุดนั้น ต้องเป็นคำสั่งยืน ในข้อที่ว่ายากจนหรือไม่เท่านั้น โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของ โจทก์ทั้งสามด้วย หมายเหตุ จำเลยทั้งสี่ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง กรณีเป็นชั้นขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา โจทก์ทั้งสามฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่จดทะเบียนเพิกถอนการจดทะเบียนที่ตกเป็นโมฆะ และร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ชั้นชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีโจทก์ทั้งสามเป็นคดีมีทุนทรัพย์และมีคำสั่งให้โจทก์ทั้งสามชำระค่าขึ้นศาล ตามราคาที่ดินพิพาท โจทก์ทั้งสามยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าคดีของโจทก์ไม่มีมูล ไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ให้โจทก์ทั้งสามนำค่าขึ้นศาลมาชำระภายใน 15 วัน หากประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป พ้นกำหนดไม่ชำระศาลจะพิจารณาสั่งเกี่ยวกับการรับฟ้องใหม่ต่อไป ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน หากโจทก์ทั้งสาม ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดนับแต่วันทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 2 แล้วให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งดำเนินกระบวนพิจารณา ต่อไปตามรูปคดี โจทก์ทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 90) โจทก์ทั้งสามจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 93)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว การที่คู่ความอ้างว่าเป็นคนยากจนไม่สามารถ เสียค่าธรรมเนียมศาลได้นั้น ถ้าผู้ขอเป็นโจทก์ ผู้ขอจะต้อง แสดงให้เป็นที่พอใจศาลด้วยว่าคดีของตนมีมูลที่จะฟ้องร้อง ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 155 วรรคแรก ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 เห็นว่า คดีโจทก์ไม่มีมูลเพียงพอไม่อนุญาต ให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา คำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้ายศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share