คำสั่งคำร้องที่ 826/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีมีทุนทรัพย์ต้องห้ามฎีกา จึงไม่รับ คืนค่าขึ้นศาลแก่จำเลย จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินตาม พระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2517 มาตรา 44 ห้ามโอนภายใน 5 ปี โจทก์ฟ้องเพื่อบังคับเอาที่ดินดังกล่าว ยังไม่ล่วงพ้นกำหนดเวลา 5 ปี เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย โจทก์ไม่มี อำนาจฟ้องนั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจาก ที่พิพาทตามแผนที่วิวาท ซึ่งเป็นที่ดินของโจทก์ตามโฉนด เลขที่ 11627 ตำบลสร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรีให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 300 บาท นับแต่วันฟ้อง ไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินของโจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เดือนละ 100 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็น ไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 101,100) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 102)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ข้ออ้างที่จำเลยอ้างว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้นย่อมต้องอาศัยข้อเท็จจริงเพื่อการวินิจฉัยปัญหา ข้อกฎหมาย การเถียงข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยุติและต้องห้าม ฎีกาเพื่อสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยจึง มีผลอย่างเดียวกับการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้าม ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลยนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share