คำสั่งคำร้องที่ 814/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า โจทก์ฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงซึ่งนำไปสู่ข้อกฎหมายคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้น ฎีกาไม่ถึง 200,000 บาท จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่ ไม่รับเป็นฎีกาโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การยกให้ของโจทก์แก่จำเลยมิใช่เป็นการยกให้เป็นบำเหน็จสินจ้างตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 535(1) ตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแต่เป็นการยกให้โดยเสน่หาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 521 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 87)โจทก์ ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 6892 ตำบล บางจักร์(ไผ่ดำ)อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เฉพาะส่วนของจำเลย 5 ไร่ ให้แก่โจทก์ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา ถึงที่สุด ถ้าจำเลยไม่โอนที่ดินให้แก่โจทก์ ให้ถือเอาคำพิพากษา แสดงแทนเจตนาของจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 82)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)

คำสั่ง
เห็นว่า ข้ออ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายของโจทก์ ย่อมต้องอาศัยข้อเท็จ จริงเพื่อการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย การเถียงข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยุติและต้องห้ามฎีกาเพื่อสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของโจทก์ จึงมีผลอย่างเดียวกันกับการ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาโจทก์นั้น ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share