แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากนายอนันต์พวงงามหรือวรนิติโกศล ผู้ร้องได้นำโฉนดที่ดินรวม 3 แปลง มาวางค้ำประกันในการที่โจทก์เข้าดำเนินกิจการสถานบริการบิลเลี่ยนดิสโก้เธค ซึ่งเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา แต่เนื่องจากขณะนี้ผู้ร้องมีความจำเป็นที่จะต้องนำที่ดินทั้ง 3 แปลงดังกล่าวไปแบ่งแยกให้แก่น้องชายอีก 3 คนของผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินดังกล่าว ผู้ร้องจึงมีความประสงค์ขอเปลี่ยนหลักประกัน โดยนางมุกดาวรนิติโกศลภรรยาผู้ร้องยินดีนำสมุดเงินฝากประจำจำนวน 2,000,000 บาทมาค้ำประกันต่อศาลแทนที่ดินดังกล่าว โปรดอนุญาต
หมายเหตุ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้องคดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งห้าให้ชำระหนี้ ระหว่างพิจารณา โจทก์ได้นำยึดสถานบริการบิลเลี่ยนดิสโก้เธคของจำเลยที่ 1ไว้ชั่วคราว และศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์เป็นผู้เข้าดำเนินกิจการสถานบริการดังกล่าวโดยเสียค่าตอบแทนและมีนายอนันต์พวงงามนำโฉนดที่ดินรวม 3 แปลงมาค้ำประกันโจทก์ ต่อมาโจทก์ผิดสัญญาไม่ชำระค่าตอบแทน ศาลชั้นต้นจึงอนุญาตให้บริษัทอาร์.พี.เจ จำกัดผู้ร้องที่ 1 และบริษัททอปเปอร์คลับ บางกอก จำกัด ผู้ร้องที่ 2เข้าดำเนินกิจการต่อไปโดยกำหนดค่าตอบแทนและให้นำค่าตอบแทนมาวางศาลเป็นรายเดือนกับให้หาประกันมาวางศาลด้วย ตาม รายละเอียดในรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 2 เมษายน 2529 ผู้ร้องที่1ที่2ได้วางหลักทรัพย์ไว้เป็นประกันต่อศาล และต่อมาก็ได้วางเงินที่จะต้องชำระเป็นรายเดือนไว้ต่อศาลอีก จำนวน 200,000 บาทวันที่ 6 มิถุนายน 2529 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ขอเข้าว่าคดีแทนโจทก์ และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ซึ่งถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ไว้ชั่วคราวในคดีล้มละลาย ศาลชั้นต้นอนุญาต ต่อมาวันที่ 17 มิถุนายน 2529 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้
โจทก์ ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 คดีถึงที่สุด
วันที่ 1 กรกฎาคม 2529 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือลงวันที่ 30 มิถุนายน 2529 ขอให้ศาลส่งเงินค่าเช่าหรือเงินอื่นใดที่รวบรวมได้จากกิจการดิสโก้เธค แทนจำเลยที่ 1 ไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
วันที่ 5 สิงหาคม 2529 ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องว่าคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คำสั่งศาลที่ให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวระหว่างพิจารณาเป็นอันยกเลิกไปเพราะโจทก์แพ้คดีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ไม่ต้องนำเงินมาวางจึงขอให้ศาลสั่งคืนเงิน 200,000 บาท และหลักประกันที่ได้วางไว้ต่อศาล
ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องของผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 แล้วมีคำสั่งว่าศาลชั้นต้นพิพากษาโดยไม่ได้กำหนดวิธีการชั่วคราวไว้ในคำพิพากษาถือว่าวิธีการชั่วคราวดังกล่าวเป็นอันยกเลิก ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2จึงต้องรับผิดวางเงินตามคำสั่งศาลจนถึงวันที่ศาลพิพากษา ซึ่งผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ได้นำเงินมาวางศาลในเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียวส่วนเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนมิได้นำมาวาง จึงให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2นำเงินประจำเดือนดังกล่าว เดือนละ 200,000 บาท มาวางต่อศาลภายใน1 เดือน นับแต่วันสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 วางเงินค่าเช่า 400,000 บาท กับให้คืนหลักทรัพย์ที่วางประกันแก่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ฎีกา(อันดับ 290)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 308 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นสั่งคำร้องนี้ จึงให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งคำร้องนี้ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วให้ส่งสำนวนคืนศาลฎีกา
