คำสั่งคำร้องที่ 769/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน คดีจึงต้องห้ามฎีกาไม่ว่าปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่ไม่รับฎีกา โจทก์เห็นว่า คดีนี้เจ้าพนักงานสอบสวนได้มีคำสั่งฟ้องจำเลย ปรากฏตามคำเบิกความของพนักงานสอบสวน และจำเลยก็ได้ ยอมรับผิดโดยจำเลยได้รับต่อศาลว่าจำเลยเคยเสนอขอชดใช้ ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ด้วย ซึ่งแสดงว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด ฎีกาของโจทก์จึงเป็นปัญหาที่มีสาระสำคัญอันสมควร ได้ขึ้นสู่ศาลสูง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณา ต่อไปด้วย หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 94) ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง ไว้พิจารณา โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 89) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 90)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 เมื่อโจทก์ยื่นฎีกา และยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่ลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาที่ลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นมิได้อนุญาตให้ฎีกาและสั่งไม่รับฎีกา ฎีกาโจทก์จึงต้องห้ามตามบทกฎหมายที่กล่าวข้างต้นให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์

Share