คำสั่งคำร้องที่ 763/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาจำเลยเป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 มีเจตนาบุกรุกที่ดินของโจทก์หรือไม่ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 224)โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334,335,358,362,365,83,91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล จึงประทับฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดฐานร่วมกันบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) ประกอบด้วยมาตรา 362 กับให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ในความผิดฐานบุกรุกด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 220)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 221)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2เข้ายึดถือครอบครองที่ดินแปลงพิพาทโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นที่ดินของโจทก์ จำเลยทั้งสองฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยทั้งสองไม่รู้ว่าที่ดินแปลงพิพาทเป็นของโจทก์ เป็นการโต้เถียงในข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share