แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ในชั้นอุทธรณ์จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์อุทธรณ์ว่าศาลปรับบทมาตราผิด จำเลยไม่อาจฎีกาได้ว่าไม่ได้กระทำ ความผิด เนื่องจากไม่ได้ว่ากล่าวมาในชั้นอุทธรณ์จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาก มิใช่แก้ไขเล็กน้อยจึงไม่ต้องห้ามฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 63)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสอง ประกอบมาตรา 245ที่แก้ไขแล้ว จำคุก 15 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม ประกอบ มาตรา 285 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา(อันดับ 55 แผ่นที่ 2)
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 60 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสอง ประกอบมาตรา 285 จำคุก 15 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม ประกอบมาตรา 285 ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ได้กระทำความผิด พอถือได้ว่าเป็นการฎีกาคัดค้าน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อที่ว่าการกระทำของจำเลย ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม อันเป็นการฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย จึงให้รับฎีกาของจำเลย ไว้เพื่อดำเนินการต่อไป