คำสั่งคำร้องที่ 725/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ
จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54จึงไม่รับ
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ทุกข้อเป็นปัญหาข้อกฎหมายกล่าวคือ ข้อ 2.1 ปัญหาว่า คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางที่ว่าพยานโจทก์ปากนายวุฒิกรพินิจมั้งเบิกความโดยยังมิได้ตอบคำถามค้านของทนายจำเลยทั้งสองไม่อาจรับฟังได้นั้นชอบด้วยวิธีพิจารณาหรือไม่และคำสั่งศาลแรงงานกลางที่ไม่อนุญาตให้โจทก์สืบพยานและที่ไม่เรียกพยานมาสืบเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ความแจ้งชัดในข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติ
จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน สำหรับข้อ 2.3 ปัญหาว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดี โดยยังมิได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนสมบูรณ์และเพียงพอเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมายมาตรา 44 วรรคแรก และมาตรา 45 วรรคแรก ของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานหรือไม่ ส่วนในข้อ 2.4ปัญหาว่า คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางที่ว่าโจทก์ยังมิได้เลิกจ้างจำเลยที่ 1 จึงต้องจ่ายค่าจ้างจนกว่าได้บอกเลิกการจ้างนั้นเป็นคำวินิจฉัยที่ขัดต่อคำเบิกความของจำเลยที่ 1 และไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐาน โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 แถลงคัดค้าน (อันดับ 140) สำหรับจำเลยที่ 2 ศาลแรงงานกลางแจ้งให้ทนายจำเลยที่ 2 ทราบคำร้องโดยวิธีประกาศหน้าศาล (อันดับ 145)
โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 27,038,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นคำให้การ เฉพาะจำเลยที่ 1 ฟ้องแย้งให้โจทก์ชำระค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท รวม 6 เดือน และค่าจ้างเป็นรายเดือนเดือนละ10,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะมีการเลิกจ้าง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์และให้โจทก์ชำระเงินให้จำเลยที่ 1 เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท และเดือนละ 10,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะมีการเลิกจ้าง ส่วนคำขอนอกจากนี้ให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 130)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 135)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์อุทธรณ์ข้อ 2.1 ว่า คำเบิกความของนายวุฒิกรพินิจมั้ง พยานโจทก์ซึ่งเบิกความ โดยยังมิได้เบิกความตอบคำถามค้านของจำเลยทั้งสองอาจรับฟังเป็นพยานได้หรือไม่ข้อ 2.2ว่า โจทก์ไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์ในวันที่ 8 กันยายน 2532ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบและไม่อนุญาต ให้โจทก์สืบพยานหรือสืบพยานเพิ่มเติมเป็นคำสั่งที่มิชอบ ข้อ 2.3 ว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีโดยยังไม่ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนสมบูรณ์ และเพียงพอซึ่งเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบตามมาตรา 44 วรรคแรก มาตรา 45 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 และ ข้อ 2.4ว่า คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางที่ว่า โจทก์ยังไม่ได้เลิกจ้างจำเลยที่ 1 เป็นคำวินิจฉัยที่ขัดต่อคำเบิกความของจำเลยที่ 1 และขัดต่อพยานหลักฐานในสำนวนนั้นเป็นอุทธรณ์ข้อกฎหมาย จึงให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ในข้อ 2.1,2.2,2.3 และ 2.4 ไว้ดำเนินการต่อไป

Share